การท่องเที่ยวฮ่องกงจึงอยากชวนคนไทยไปสำรวจแลนด์มาร์กใหม่ ครบทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เป็นการทำความรู้จักฮ่องกงในมุมที่แปลกตากว่าที่เคย เกิดเป็นแคมเปญ 360 Hong Kong Moments: New Adventures at Every Turn ฮ่องกง 360 องศา: การผจญภัยครั้งใหม่ในทุกมุม ผ่าน 4 มุมมอง ได้แก่
Arts & Culture การเกิดใหม่ของย่านศิลปวัฒนธรรมสุดคูล
Shop Dine & Stay อัปเดตแหล่งช้อป ชิม ชิล และสถานที่แฮงเอาต์ใหม่ๆ ในฮ่องกง ตั้งแต่สตรีทฟู้ดจนถึงระดับมิชลินสตาร์
Explore & Play โลกใบใหม่ของเด็กๆ ทั้งสวนน้ำและสวนสนุกเปิดใหม่
Great Outdoors สำรวจเส้นทางการผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติ
บอกเลยว่าทั้ง 4 มุมมอง การท่องเที่ยวฮ่องกงลิสต์สถานที่เด็ดๆ มาเอาใจนักเดินทางชาวไทยมากมาย ขอยกตัวอย่างลิสต์เจ๋งๆ จาก 2 มุมมอง Arts & Culture และ Shop Dine & Stay มายั่วก่อนจะได้ไปเยือนจริง
Arts & Culture: ยืนหนึ่งเมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรม
พาเยือนย่านวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่เขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก แล้วย้อนกลับไปยังฮ่องกงยุคเก่าผ่านศูนย์กลางมรดกทางวัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัยแห่งฮ่องกง ปิดท้ายเช็กอิน Steet Art ตอกย้ำต้นแบบเมืองแห่งจิตรกรรมฝาผนังของเอเชีย
West Kowloon Cultural District ย่านศิลปวัฒนธรรมแลนด์มาร์กแห่งใหม่
ช่วงปลายปี 2562 ฮ่องกงปลุกชีพพื้นที่เกาลูนตะวันตก (West Kowloon) ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลเพื่อสร้าง Cultural District โดยตั้งใจที่จะทำให้ย่านนี้เป็นแหล่งรวมงานสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ และแหล่งท่องเที่ยวด้านศิลปะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เต็มอิ่มไปกับการท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม เกิดเป็นโปรเจกต์ West Kowloon Cultural District (WKCD) พัฒนาและสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมใหม่ๆ เช่น
M+ พิพิธภัณฑ์ทางภาพสมัยใหม่และร่วมสมัยแห่งแรกในเอเชีย
หนึ่งในเมกะโปรเจกต์ที่ตั้งใจจะให้เป็น Hub ขนาดใหญ่ทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของฮ่องกง เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2564 โดยคอนเซปต์ของพิพิธภัณฑ์และที่มาของชื่อ M+ มาจาก Museum and More หมายถึงการเป็นมากกว่าพิพิธภัณฑ์ เพราะที่นี่รวบรวมผลงานศิลปะร่วมสมัยหลายแขนง ทั้ง ทัศนศิลป์ ดีไซน์ สถาปัตยกรรม และผลงานภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอนิเมชัน รวมทั้งภาพยนตร์ของศตวรรษที่ 20 และ 21 โดยชูความโดดเด่นเรื่อง Visual Culture
บนพื้นที่กว่า 65,000 ตารางเมตร ความสูง 18 ชั้น แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับจัดนิทรรศการ 33 ห้อง, โรงภาพยนตร์ 3 โรง, ห้องสมุด, ศูนย์การเรียนรู้, ห้องบรรยาย, ร้านอาหารและคาเฟ่, ระเบียงดาดฟ้าให้ชมความงามของอ่าววิกตอเรีย และจุดเด่นอย่าง M+ Facade จอ LED ขนาดใหญ่สูง 65 เมตร กว้าง 110 เมตร นำเสนองานศิลป์เพื่อสื่อสารกับผู้คนได้แบบเรียลไทม์ สามารถมองเห็นได้ไกลถึง 1.5 กิโลเมตร
Hong Kong Palace Museum พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง
พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่ใช้เวลาพลิกโฉมกว่า 5 ปี เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อกรกฎาคม 2565 ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะและวัฒนธรรมจีน รวบรวมขุมทรัพย์แห่งโบราณวัตถุหายาก โดยเฉพาะคอลเล็กชันเครื่องสังคโลกจีน รวมไปถึงผลงานศิลปะระดับโลกกว่า 900 ชิ้น จากพิพิธภัณฑ์พระราชวังในกรุงปักกิ่ง (Palace Museum in Beijing) หรือที่รู้จักกันดีในนามของ พระราชวังต้องห้าม เช่น ภาพวาด เครื่องถ้วยสำริด งานปัก และสถาปัตยกรรมโบราณ ครอบคลุมประวัติศาสตร์อารยธรรมจีนกว่า 5,000 ปี รวมไปถึงการจัดแสดงโบราณวัตถุชั้นยอดของประเทศอีก 166 ชิ้น ถือเป็นการจัดแสดงนิทรรศการทางวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุด และเป็นระดับสูงสุดของพิพิธภัณฑ์พระราชวังนอกแผ่นดินใหญ่นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1925
ที่นี่ยังนำเอาผลงานชิ้นเอก 13 ชิ้น จากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประเทศฝรั่งเศส มาจัดแสดงในฐานะศูนย์กลางแห่งการผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก เพื่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากนานาชาติ
Art Park & West Kowloon Promenade สวนสาธารณะริมน้ำ
พื้นที่เปิดโล่งสีเขียวที่ทอดตัวยาวริมอ่าววิกตอเรียตลอด 2 กิโลเมตร ถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนแห่งใหม่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมาทำกิจกรรมหลากหลายได้อย่างอิสระ จะปิกนิกบนสนามหญ้า ปั่นจักรยาน วิ่งออกกำลังกาย ชิมอาหารท้องถิ่นไปจนถึงอาหารบิสโทร จิบกาแฟที่คาเฟ่ริมท่าเรือ และที่พลาดไม่ได้คือการชมพระอาทิตย์ตกดิน
ที่สำคัญใจกลาง Art Park & West Kowloon Promenade ยังเป็นแหล่งรวมสถานที่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมทางวัฒนธรรมกลางแจ้ง เช่น Freespace ศูนย์จัดแสดงศิลปะการแสดงร่วมสมัย และ Growing Up Pavilion อาคารไม้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ Hong Kong Architect & Designers Competition 2017 ว่ากันว่าจุดนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดอีกด้วย
Tai Kwun จาก เรือนจำเก่า สู่ ศูนย์กลางแห่งมรดกและวัฒนธรรม
ต่ายกู๋น (Tai Kwun) อดีตสถานีตำรวจและเรือนจำเก่าอายุกว่าร้อยปี ที่ตอนนี้กลายเป็นศูนย์กลางมรดกทางวัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัยแห่งฮ่องกง ประกอบด้วย 16 อาคาร เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวย้อนเวลากลับไปยังยุคที่ฮ่องกงต้องจัดระเบียบและตั้งกฎเกณฑ์ข้อบังคับในการควบคุมพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัย นำไปสู่การสร้างสถานีตำรวจ สำนักงานคณะผู้พิพากษากลาง และเรือนจำวิกตอเรีย
ปัจจุบันอาคารดังกล่าวถูกแปลงโฉมให้กลายเป็นอาร์ตแกลเลอรีสเปซและออดิทอเรียม จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนและนิทรรศการหลัก อย่างเรือนจำวิกตอเรีย คุกเก่าที่เคยมีไว้ใช้ขังนักโทษจริงๆ ปัจจุบันจัดเป็นนิทรรศการจำลองชีวิตในห้องขัง หรือบริเวณ Barrack Block จะมีนิทรรศการที่บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของตึก เรื่องราวของนักโทษคดีความต่างๆ จัดแสดงขั้นตอนการคุมตัวนักโทษ
นอกจากอาคารเก่าแก่ ต่ายกู๋น ยังมีอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ ได้แก่ JC Cube และ JC Contemporary ใช้เป็นพื้นที่สำหรับแสดงงานศิลปะ จัดกิจกรรม จัดประชุม และเปิดโอกาสให้ศิลปินมาจัดแสดงงานศิลปะส่วนตัว ถ้าเดินชมงานศิลปะจนอิ่มใจแล้วอยากหาอะไรเติมพลังให้อิ่มท้อง ที่อาคารสถานีกลางตำรวจเก่ามีร้านอาหาร คาเฟ่ และช็อปเก๋ๆ กระจายตัวอยู่ทุกชั้น นี่แหละสวรรค์ของคนรักงานศิลป์จริงๆ
Mural Cluster แหล่งรวมงานศิลป์บนกำแพง
ฮ่องกงน่าจะเป็นเมืองอันดับต้นๆ ของโลกที่ซุกซ่อนผลงาน Street Art ไว้ตามตรอกซอกซอยได้อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะไปย่านไหนต้องได้เห็นศิลปะบนกำแพงซ่อนตัวอยู่ กลายเป็นที่กล่าวถึงในกลุ่มศิลปินท้องถิ่นและต่างประเทศที่อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์งานศิลปะบนผนัง อย่างอาคารเก่าในย่าน Sai Ying Pun ที่ได้ศิลปินทั้งชาวฮ่องกงและต่างชาติรวม 9 คน มาร่วมกันปั้นโปรเจกต์ ArtLane ตลอดถนน Ki Ling Lane และ Chung Ching Street สาดสีสันบนกำแพงและบันไดในธีมศิลปะกับดนตรี จนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่มีสีสันมากที่สุดจุดหนึ่งของฮ่องกง
จริงๆ แล้วในฮ่องกงเองก็มี HKwalls องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่เปิดโอกาสให้ศิลปินท้องถิ่นและต่างประเทศได้บรรเลงไอเดียและฝีมือลงบนผนัง ทำให้ฮ่องกงกลายเป็นเมืองที่มี Street Art อันโดดเด่นเมืองหนึ่งของเอเชียจนถึงทุกวันนี้
Shop Dine & Stay ช้อป ชิม และชิล
ชิมเมนูรสเลิศจากร้านอาหารแนวใหม่ ช้อปให้หนำใจกับแหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ที่มากกว่าการช้อป แต่ให้คุณได้ชมงานศิลปะไปพร้อมๆ กัน ใช้เวลาชิลๆ ในโรงแรมหรูระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบูติกสุดหรูหรา
JAJA
ร้านอาหารมังสวิรัติแนวใหม่ที่น่าสนใจตั้งแต่การออกแบบร้านให้สดใสดึงดูดคนยุคใหม่ที่ชอบถ่ายรูป มีการจัดวางงานศิลปะไว้ตามมุมต่างๆ ของร้าน ไปจนถึงการออกแบบเมนูมังสวิรัติที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่ พร้อมการตกแต่งจานอาหารสุดเก๋ ลบภาพอาหารสุขภาพจืดชืดได้สิ้น เช่น ชุดพุดดิ้งเมล็ดเจียแบบวีแกน หรือพิซซ่าแกงเผ็ดจานยักษ์ขนาด 1 เมตร และชุดมิลก์เชก Shake It Off หลากสีสัน
The Hideout
ร้านลับวิวสวยบนเกาะลันเตา ชวนให้คุณหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ออกไปนั่งชิลใน Mui Wo ที่ตั้งของ The Hideout ที่แปลงโฉมตู้คอนเทนเนอร์ให้เป็นคาเฟ่แสนอบอุ่นริมทะเลสาบที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ภายใต้คอนเซปต์ Farm to Table นำวัตถุดิบสดใหม่ที่ได้จากฟาร์มออร์แกนิกของทางร้านมารังสรรค์เป็นเมนูอร่อยๆ ความน่ารักคือ เขายังแบ่งพื้นที่ฟาร์มให้กับคนในชุมชนเช่าเพื่อปลูกผักด้วยเช่นกัน รวมไปถึงเปิดสถานที่เพื่อให้คนที่สนใจการปลูกฟาร์มออร์แกนิก และเรียนรู้วิธีเลี้ยงผึ้งได้เข้ามาเวิร์กช็อปอีกด้วย
PENICILLIN
บาร์ระบบหมุนเวียนแบบปิดแห่งแรกของฮ่องกง ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและแนวคิด Zero Waste จนคว้ารางวัล Ketel One Sustainable Bar Award ใน Asias 50 Best Bars 2021 ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการรีไซเคิลและอัปไซเคิลวัตถุดิบเท่านั้น แต่ยังระดมความคิดเกี่ยวกับวิธีการใหม่ๆ ในการลดของเสีย การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบาร์ ตลอดจนการจัดหาผลิตผลในท้องถิ่นและตามฤดูกาล
K11 Musea
แหล่งช้อปปิ้งสุดหรูริมอ่าววิกตอเรียที่มาในคอนเซปต์ Art Mall ให้นักท่องเที่ยวช้อปและชมงานศิลปะไปพร้อมกัน เพราะทุกพื้นที่ของห้างมีชิ้นงานศิลปะขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ อย่างบริเวณกลางห้างมีงานศิลปะที่ชื่อ Gold Ball ลูกบอลขนาดใหญ่ที่ภายในเป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรม หรือ Bohemian Garden ชั้นดาดฟ้ามีชิ้นงาน Peacock Playground ผลงานการออกแบบ Designed by Monstrum ตั้งอยู่ รับรองว่าถูกใจทั้งนักช้อปและสายแชะแน่นอน
Central Market
อาคารประวัติศาสตร์ระดับ 3 ที่เคยเป็นตลาดสดเก่าแก่ที่สุดในฮ่องกง ถูกปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งทันสมัย เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปี 2021 ภายใต้คอนเซปต์ Playground for All หรือพื้นที่สำหรับทุกคน อาคาร 4 ชั้น แบ่งเป็นพื้นที่ร้านขายของกว่า 255 แผง ร้านอาหารท้องถิ่น พื้นที่จัดกิจกรรม ภายในตกแต่งด้วยโคมขนาดเล็กกว่า 500 ดวง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตลาดสดยุคเก่าแก่ ในทุกพื้นที่ยังตกแต่งด้วยไม้ประดับทั้งบริเวณโซนอินดอร์และเอาต์ดอร์
Fullerton Ocean Park
โรงแรมระดับไฮเอนด์ที่ตั้งอยู่ภายในสวนน้ำ Ocean Park ท่ามกลางหุบเขา Tai Shue Wan เพิ่งเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 และยังถือเป็นการเปิดตัวแบรนด์ Fullerton ในฮ่องกงเป็นครั้งแรก รวมถึงเป็น Fullerton Resort แห่งแรกของโลก ประกอบไปด้วยห้องพัก 425 ห้อง สามารถมองเห็นวิวมหาสมุทรที่ทอดยาวไปจนถึงทะเลจีนใต้ โซนเด็กเล่นขนาดใหญ่กว่า 6,400 ตารางฟุต สระว่ายน้ำอินฟินิตีกลางแจ้งขนาด 60 เมตร ศูนย์สุขภาพ ที่สำคัญแขกที่มาพักยังสามารถร่วมกิจกรรมสำรวจเมืองอเบอร์ดีน ชมวิวทิวทัศน์บริเวณชายหาด เดินป่า หรือเดิมชมตลาด ตลอดจนสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่น
Hotel 1936
เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมอาร์ตเดโคแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นอาคารมรดกทางวัฒนธรรมระดับ 3 สร้างขึ้นเมื่อปี 1936 ตั้งตระหง่านบนถนน Prince Edward Road West ถูกแปลงโฉมให้กลายเป็นโรงแรมบูติกสุดหรูหรา ห้องพักจำนวน 50 ห้อง ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง นอกจากจะตกแต่งได้อย่างมีสไตล์ผสมผสานความร่วมสมัยและกลิ่นอายของอดีตได้อย่างลงตัว ยังมอบวิวทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาสิงโตและคาบสมุทรเกาลูน บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมจัดเป็นห้องนิทรรศการ พาคุณย้อนไปสัมผัสความรุ่งเรืองยุคก่อนสงคราม
ที่มา: https://thestandard.co/hong-kong-moments/
ภาพ: https://www.rappler.com/brandrap/hong-kong-welcomes-visitors-new-adventures-revamps-tourist-favorites/
Sun Gateway, ซัน เกทเวย์, บริษัท ซัน เกทเวย์ จํากัด, สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ, สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน, สินเชื่อบ้านคนไทยในต่างแดน, สินเชื่อบ้านคนไทยในต่างแดน, สินเชื่อต่างแดน, ธอส สินเชื่อคนไทยในต่างประเทศ, สินเชื่อ ธอส เพื่อคนไทยในต่างประเทศ, โครงการบ้าน ธอส