ธนาคารโลก หรือ เวิร์ดแบงก์ ได้ออกรายงาน การจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจในประเทศต่างๆ ทั่วโลกประจำปี 2558 ซึ่งเป็นการรายงานล่วงหน้า 1 ปี โดยระบุว่า ประเทศที่ได้อันดับหนึ่งที่เหมาะจะทำธุรกิจคือ สิงคโปร์ ซึ่งต่อเนื่องมาถึง 9 ปี โดยมีนิวซีแลนด์ ตามมาอันดับสอง ทั้งนี้ การคัดเลือกของเวิร์ดแบงก์ ดูที่สิ่งแวดล้อมด้านการทำธุรกิจ ภาวะเศรษฐกิจ การจัดเก็บภาษีของรัฐบาลที่มีต่อธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาลงทุน รวมไปถึงค่าเช่าอาคารสำนักงาน การจัดการด้านบริการด้านขนส่งและสาธารณูปโภค ส่วนอันดับสาม คือ ฮ่องกง แม้ว่าในเวลานี้จะมีปัญหาเรื่องการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ธนาคารโลกยังเชื่อมั่นว่า ฮ่องกง มีศักยภาพด้านการลงทุนสูง ส่วนเดนมาร์ก และเกาหลีใต้ ครองอันดับประเทศที่น่าลงทุนในอันดับ 4 และ 5 จากการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ด้านการลงทุนของเวิร์ดแบงก์ เปิดเผยว่า ประเทศที่ไม่เหมาะกับการทำธุรกิจของต่างชาติจะมีระบบการจัดการด้านต่าง ๆ ที่แย่ซึ่งทำให้ต่างชาติไม่อยากไปลงทุน รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายสูงไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ในการจัดอันดับ พบว่า สหราชอาณาจัก ไต่อันดับขึ้นมาอยู่ที่ 8 เพิ่มขึ้นมาหนึ่งอันดับจากประจำปีนี้ ส่วนฟินแลนด์ หล่นไปอยู่อันดับ 9 ส่วนสหรัฐอยู่อันดับที่ 7 และในญี่ปุ่นหล่นมาสองอันดับอยู่ที่ 29 ทางด้านประเทศกำลังพัฒนาอย่างจีนมีอันดับเพิ่มขึ้นจาก 90 มาอยู่ที่ 93 ส่วนทางด้านรัสเซียเพิ่มขึ้นมาสองอันดับอยู่ที่ 62 รายงานได้เปิดเผยว่า ประเทศกำลังพัฒนาของทวีปแอฟริกาใต้ อย่างไนจีเรีย มีอันดับเพิ่มขึ้นมา 5 อันดับอยู่ที่ 170 สืบเนื่องมาจากไนจีเรียเป็นแหล่งผลิตน้ำมัน และหมดปัญหาด้านความขัดแย้งทางการเมือง สำหรับประเทศไทย นายอูริค ซาเกา ผอ.ธนาคารโลกประจำประเทศไทย เผยธนาคารโลกได้ประกาศผล โดยไทยอยู่อันดับที่ 26 จากทั้งหมด 189 ประเทศทั่วโลก ดีขึ้น 2 อันดับจากปี 57