ผลการรวบรวมภาวะราคาตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศมหาอำนาจทั่วโลก พบว่า ราคาบ้านหลังใหม่ในจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลดลงตั้งแต่เดือนกันยายน 2557 จนถึงเมษายน 2558 โดยล่าสุดลดลง 6.1% ทั้งนี้คงเป็นเพราะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว จึงทำให้ราคาบ้านที่นำเสนออกสู่ตลาดมีราคาลดลง เพื่อจูงใจให้มีผู้เข้าซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น จีนมีมาตรการสะกัดการเก็งกำไรที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นอย่างขนานใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะหยุดยั้งการเก็งกำไรลงได้ อย่างไรก็ตามราคาบ้านที่สร้างเสร็จไม่ได้ตกต่ำลงแต่อย่างใด
ขณะที่ราคาบ้านในญี่ปุ่นโดยรวม เพิ่มสูงขึ้น โดยเพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณ 12.9% ทั้งนี้เป็นผลของรายงานของสำนักเทรดิ้งอีโคโนมิกส์ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการปรับปรุงภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยพิจารณาจากอัตราการว่างงาน ซึ่งลดต่ำลงเหลือเพียง 3.5% ของประชากรวัยทำงาน เศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น ยังห่างไกลจากภาวะเฟื่องฟูในอดีต แต่ก็ฟื้นตัวขึ้นในระดับหนึ่ง
ในสหรัฐอเมริกา ราคาบ้านเพิ่มขึ้น 0.7% ในระหว่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งถือเป็นเดือนล่าสุดที่ทำการสำรวจโดยสำนักงานการเงินเคหะการแห่งสหรัฐอเมริกา และใน 1 ปีล่าสุด (กุมภาพันธ์ 2557-2558) ราคาบ้านเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.4% ทั่วทั้งประเทศ ทั้งนี้บางพื้นที่เพิ่มสูงถึง 6.9% เสียด้วย ขณะนี้ถือได้ว่าราคาบ้านในสหรัฐอเมริกาได้พ้นหุบเหวแล้ว และเติบโตต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว
สำหรับในออสเตรเลีย ราคาที่อยู่อาศัยในปี 2557 เพิ่มสูงขึ้นถึง 6.8% ใน 8 นครหลักของออสเตรเลีย ทั้งนี้เป็นผลจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย โดยเฉพาะในนครซิดนีย์ ราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้นถึง 12.2% มีเพียงนครดาร์วิน ซึ่งอยู่ด้านเหนือสุดของประเทศ ที่ราคาเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% เท่านั้น ราคาบ้านเฉลี่ยในออสเตรเลียมีราคา 14.85 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี สำนักงานที่ดินของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ราคาบ้านในสหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้น 5.3% ในปี 2558 หรือเฉลี่ยหน่วยละ 8.919 ล้านบาท ทั้งนี้เฉพาะในกรุงลอนดอน ราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้นถึง 11.8% หรือเฉลี่ยหน่วยละ 23.187 ล้านบาท ราคาบ้านในอังกฤษพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่เริ่มมีข่าวคราวการจัดงานโอลิมปิกฤดูร้อนเมื่อปี 2555 เป็นต้นมา และเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง