แบงก์พาณิชย์จัดแพ็คเกจสินเชื่อบ้านรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล โดยกรุงไทยลดดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยกรุงไทย บ้านแสนสะดวก 5 ปีแรกลง 0.25% ส่วนกสิกรไทย ผนึกผู้พัฒนาโครงการบ้านรายใหญ่ เร่งจัดแพ็คเกจ ลดดอกเบี้ยและราคาบ้านพิเศษตอบโจทย์สินเชื่อ บ้านทุกกลุ่ม ขณะที่ CIBM เตรียมคลอด แพ็คเกจใหม่ 2 พ.ย.นี้ บุกตลาดบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท
นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า ธนาคารได้สนับสนุนมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ตามนโยบายของรัฐบาล โดยจัดแคมเปญสินเชื่อที่อยู่อาศัยกรุงไทยบ้านแสนสะดวก (KTB SMART HOME LOAN) เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง สามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น โดย ลดอัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก ลง 0.25% ต่อปี จากเดิม ในปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี เหลือ 3.00% ต่อปี ส่วนในปีที่ 2-5 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR – 0.50% ต่อปี จากเดิมคิด MLR – 0.25% ต่อปี และปีที่ 6 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย MLR -0.25% ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MLR อยู่ที่ 6.525% ต่อปี)
นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการ ผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยเผยว่า ธนาคารเตรียม ออกแคมเปญสินเชื่อบ้านใหม่ดอกเบี้ยอัตราพิเศษตอบโจทย์ทุกกำลังซื้อประมาณกลางเดือน พ.ย.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะสอดรับหลังจากที่รัฐบาล ออกมาตรการการกระตุ้นอสังหาฯ ในช่วง 2 เดือน สุดท้ายปีนี้ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ จะออก แคมเปญบ้านราคาพิเศษหลากหลาย โดยเฉพาะ เร่งระบายสต็อกราคาบ้านและคอนโดมิเนียม ต่ำกว่า 3 ล้านบาท และยอดปริมาณการจดจำนอง และโอนจะเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงปกติแน่นอน
นายอลงกต บุญมาสุข ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกสิกรไทยกล่าวว่า สำหรับแพ็คเกจสินเชื่อบ้านใหม่อัตราดอกเบี้ยพิเศษและบ้านราคาพิเศษ เบื้องต้นจะมี 2 ลักษณะ คือ แพ็คเกจอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับลูกค้าของผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯรายใหญ่ เช่น แสนสิริ พฤกษา เอพี และแพ็คเกจบ้านราคาพิเศษและดอกเบี้ยพิเศษให้กับลูกค้าธนาคารกสิกรไทย
ขณะที่ อัตราดอกเบี้ยพิเศษมีหลากหลายรูปแบบถึง 6 แบบ ทั้งดอกเบี้ยคงที่6%,7%,8% ระยะเวลา1ปี,2 ปี,3 ปี และดอกเบี้ยลอยตัว MRR-1% ถึง 2% ตลอดอายุสัญญา (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR อยู่ที่ 7.87%)
อย่างไรก็ดี ธนาคารพยายามขยายฐานลูกค้าร่วมกับผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมราคาเริ่มต้น 1-2 ล้านบาท เพราะเป็นกลุ่มที่มีรายได้ประจำที่มี ความสามารถซื้อได้ รวมถึงกลุ่มบ้านมือสองราคา 1-2 ล้านกว่าบาทในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ เป็นตลาดอสังหาฯที่มีการขยายตัวสูง