นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอแพ็กเกจ ในโครงการปล่อยกู้ที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยและ ผู้ประกอบการเอกชนภาคอสังหาริมทรัพย์ (บ้านประชารัฐ) ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบ ในวันที่ 1 มีนาคมนี้ โดยเบื้องต้นจะร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในการปล่อยกู้ให้ผู้มีรายได้น้อยต้องการมีบ้าน (โพสต์ ไฟแนนซ์) ในอัตราดอกเบี้ยแบบผ่อนปรน ซึ่งแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ในราคาบ้านไม่เกิน 7 แสนบาท กับบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขที่ แตกต่างกันในส่วนของอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ธนาคารออมสินจะปล่อยกู้ให้ ผู้ประกอบการเอกชนภาคอสังหาริมทรัพย์ (พรี ไฟแนนซ์) ที่มีความต้องการสร้างบ้านให้ผู้มีรายได้น้อยในราคาบ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยจะร่วมกับธอส. และธนาคารกรุงไทยในการให้สินเชื่อ
นายฉัตรชัย ศิริไล รองกรรมการผู้จัดการ ธอส. ว่าที่กรรมการผู้จัดการคนใหม่กล่าวว่า วงเงินเบื้องต้น ที่จะปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการซื้อบ้านประชารัฐ (โพสต์ ไฟแนนซ์) มีจำนวน 4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น วงเงินจากธอส. 2 หมื่นล้านบาท และธนาคารออมสิน 2 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เป็นเวลา 3 ปี ในราคาประมาณ 5-7 แสนบาทต่อยูนิต หากกรมธนารักษ์สามารถพัฒนาพื้นที่และผู้ประกอบการเอกชนพัฒนาได้เร็ว ก็สามารถขยายวงเงินเพิ่มอีกได้
“ธอส.พร้อมให้วงเงินสินเชื่อกับผู้ประกอบการเอกชนหรือบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ที่ต้องการจะสร้างบ้านเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยเช่า ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ส่วนผู้กู้รายย่อย ซึ่งมีรายได้น้อยคิดอัตรา ดอกเบี้ยผ่อนปรนเช่นกันโดยปกติราคาที่ 5-7 แสนต่อยูนิต จะผ่อน 3,500-3,600 บาท แต่ถ้าเป็นแพ็กเกจนี้ จะผ่อนเดือนละ 2,200-2,400 บาท โดยกระทรวงการคลังต้องกำหนดเกณฑ์ เพื่อคัดกรองผู้ที่เข้าร่วมโครงการ เพราะจำนวนยูนิตไม่เพียงพอรองรับทุกคน แต่ ธอส.ได้พัฒนาระบบไว้หมดแล้ว พร้อมเปิด ลงทะเบียน หากครม.เห็นชอบก็จะประกาศเกณฑ์ คุณสมบัติ อัตราดอกเบี้ยต่างๆ และตรวจสอบการให้สินเชื่อบ้านหลังแรกว่าจะให้สิทธิ์ก่อนหรือไม่” นายฉัตรชัย กล่าว
อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะประชุมกับผู้ประกอบการเอกชนเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการพัฒนาบนที่ราชพัสดุ หากสรุปได้ก็สามารถลงนาม เริ่มโครงการได้เลย ระหว่างนี้ ได้ให้ภาคเอกชนส่งแบบ การก่อสร้าง เพื่อคิดคำนวณต้นทุน จากที่ราชพัสดุที่กรมธนารักษ์คัดเลือกมา 6 แปลง ที่คาดว่าจะดำเนินการได้ จากทั้งหมด 76 แปลง 5,000 กว่าไร่
“รูปแบบเดิมเป็นการเช่ายาว กับขายขาดของภาคเอกชน แต่มีเพิ่มเติมมาคือ ทำเป็นโครงการแล้วให้ผู้มีรายได้น้อยเช่า ซึ่งเป็นนโยบายของนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เพราะพื้นที่น้อยในใจกลางเมือง ให้ผู้มีรายได้น้อยที่จำเป็นต้องอยู่ ต้องทำงาน เพื่อความสะดวก แต่พอมีรายได้มากขึ้น ก็ให้ออกไป โดยเน้นข้าราชการ และลูกจ้าง” อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าว