“พิโคไฟแนนซ์” แก้ปัญหาระดับชาติ “หนี้นอกระบบ”ทั่วประเทศเริ่ม 1 ธ.ค

“พิโคไฟแนนซ์” แก้ปัญหาระดับชาติ “หนี้นอกระบบ”ทั่วประเทศเริ่ม 1 ธ.ค

#คนไทยในต่างประเทศ #สินเชื่อสำหรับคนไทยในต่างประเทศ #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อสำหรับคนไทยในต่างประเทศ #คนไทยในต่างแดน #ซื้อบ้านในไทย #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อคนไทยในต่างแดน #สินเชื่อซื้อบ้านสำหรับคนไทยในต่างแดน #ทำงานต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศ

“เงินกู้นอกระบบ” เป็นหนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงของประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ปัจจุบันกลายเป็นปัญหาระดับชาติที่ประชาชนระดับฐานรากจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ ส่งผลทำให้ประชาชนระดับรากหญ้านี้ถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยอัตราดอกเบี้ยสูง และถูกติดตามทวงหนี้ด้วยวิธีต่าง ๆนานาชนิดสุดโหด จึงเป็นที่มาของ แนวทางในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาล โดยที่ผ่านมา คือการสร้างแหล่งเงินทุนเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ทางกระทรวงการคลังได้เปิดให้ใบอนุญาต “นาโนไฟแนนซ์” หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ” โดยคาดหวังจะให้เจ้าหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบ โดยกำหนดให้ผู้ที่ยื่นขอรับใบอนุญาตต้องเป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท เป็นการปล่อยกู้โดยไม่ต้องมีหลักประกัน วงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ด้วยอัตราดอกเบี้ย 36% ต่อปี

ตัวเลข “หัวอกลูกหนี้” ทั่วประเทศ
จากตัวเลขที่ผ่านมา พบว่า ปัจจุบันไทยมีลูกหนี้นอกระบบทั่วประเทศอยู่ถึง 1.185 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าหนี้ราว 123,000 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงการคลัง ก็ไม่ได้นิ่งเฉยกับปัญหาดังกล่าวและได้มีความพยายามที่จะแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเรื่องมติ ครม. ในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และตั้งเป้าช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการ ให้ได้ร้อยละ 20 ต่อปี หรือเฉลี่ย 240,000 รายต่อปี คิดเป็นมูลค่าที่หนี้ประมาณ 25,000 ล้านบาท

สินเชื่อพิโคไฟแนนซ์คืออะไร?
สำหรับพิโคไฟแนนซ์เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท หลักประกันมีหรือไม่มีก็ได้ ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ได้ไม่เกิน 36% ต่อปี ปล่อยสินเชื่อให้บริการแก่บุคคลที่มีทะเบียนบ้าน หรืออาศัยหรือทำงาน ภายในจังหวัดที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ซึ่งมีกระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นผู้กำกับดูแล “พิโคไฟแนนซ์ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ปัจจุบันมียอดหนี้กว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ออมสินและธ.ก.ส.รับหน้าที่แก้ปัญหาหนี้นอกระบบไปแล้ว โดยจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ขณะที่พิโคไฟแนนซ์ก็มีคนสนใจมาก เนื่องจากทุนจดทะเบียนไม่มากเพียง 5 ล้านบาทเท่านั้น และสามารถปล่อยกู้ได้เฉพาะในพื้นที่ที่จดทะเบียนเท่านั้น” เปิดให้ประชาชนรากหญ้ายื่น 1 ธ.ค.นี้ ผ่านออมสินและธ.ก.ส.
กำหนดคุณสมบัติ สำหรับผู้ประกอบธุรกิจปล่อยกู้ “สินเชื่อพิโคไฟแนนซ์”
(1) ผู้ประกอบธุรกิจปล่อยกู้สินเชื่อ พิโคไฟแนซ์ จะต้องเป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
(2) วงเงินให้กู้ยืมไม่เกินรายละ 5 หมื่นบาท
(3) สามารถบริการได้ทั่วประเทศ โดยเน้นพื้นที่ต่างจังหวัดนำร่องก่อน
(4) ผู้ประกอบการจะคิดดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการและค่าธรรมเนียมใดๆ จากลูกหนี้รวมกันแล้วไม่เกินอัตราดอกเบี้ยแท้จริงที่ 36% ต่อปี
(5) ให้กู้ยืมเงิน สนับสนุนให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงแหล่งทุนและนำไปแก้ไขหนี้นอกระบบได้เพิ่มขึ้น วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 5 หมื่นบาท ต่อราย
(6) ผู้ประกอบสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยได้เกิน 15% ต่อปี แต่ไม่เกิน 36% ต่อปี
(7) การเรียกให้ชำระหนี้และการติดตามทวงถามหนี้ ตาม พ.ร.บ.ทวงหนี้ การคุ้มครองผู้บริโภค
สนใจติดต่อได้ที่ไหนบ้าง..?
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโคไฟแนนซ์พร้อมเอกสารหลักฐานได้โดยตรงที่สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน สศค. ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ หรือสำหรับนิติบุคคลในต่างจังหวัด ได้กำหนดช่องทางอำนวยความสะดวกให้เพิ่มเติม โดยสามารถยื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโคไฟแนนซ์ ณ สาขาของธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากสศค.ตรวจสอบเอกสารว่าถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะพิจารณาอนุญาตการประกอบธุรกิจให้ภายในเวลา 60 วันทำการ