#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อสำหรับคนไทยในต่างประเทศ #คนไทยในต่างแดน #ซื้อบ้านในไทย #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อคนไทยในต่างแดน #สินเชื่อซื้อบ้านสำหรับคนไทยในต่างแดน #ทำงานต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศ
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ฉบับที่..) พ.ศ….เพื่อขยายขอบเขตการทำธุรกิจและแก้ไขข้อขัดข้องในการดำเนินกิจการของ (ธอส.) และเปิดทางให้ธนาคารสามารถขายสลากออมทรัพย์ได้ ทำให้มีช่องทางใหม่ในการระดมทุนระยะยาวยิ่งขึ้น และถือเป็นเครื่องมือในการปรับโครงสร้างทางการเงินของธนาคาร เนื่องจากปัจจุบันการระดมเงินฝากของธนาคารเป็นแบบระยะสั้น แต่ปล่อยกู้ระยะยาว 20 ปี ดังนั้นการออกสลากฯ ดังกล่าวจะทำให้โครงสร้างทางการเงินของธนาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ ขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งประเมินว่าจะใช้ระยะเวลาราว 6 เดือน โดยระหว่างนี้ธนาคารได้เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับกระบวนการจำหน่ายสลากออมทรัพย์ ซึ่งเบื้องต้นกำหนดอายุวงเงินงวดแรกอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท และจะเปิดจำหน่ายเป็นหน่วยลงทุนเหมือนธนาคารัฐแห่งอื่น ๆ ส่วนอายุของสลากฯ อาจอยู่ที่ 3 ปี โดยจะมีการกำหนดแรงจูงใจจากรางวัล เช่น การลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกค้าของธนาคาร อาทิ ดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 5 ปี โดยลักษณะของรางวัลจะกำหนดให้เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยเป็นหลัก
นอกจากนี้ ธนาคารยังอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับกรอบ กฎเกณฑ์และเงื่อนไขในการปล่อยสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM) เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย ภายหลังผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ด้วยเช่นเดียวกัน
ต้องไปดูว่าการปล่อยสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุจะปล่อยกับกลุ่มอายุใด อย่างไรบ้าง ต้องไปดูถึงรูปแบบและความพร้อมในทุก ๆ ด้าน รวมทั้งต้องรับข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และมุมมองของ ธปท. มาพิจารณาด้วย เช่น สามารถนำบ้านและที่ดินบริเวณใดมาค้ำประกันได้บ้าง โดยหากโครงการที่อยู่อาศัยที่พัฒนาโดยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หรือที่อยู่อาศัยในหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี ขอนแก่น จึงต้องสรุปให้ชัดเจนอีกครั้ง คาดว่าต้องใช้เงินทุนรองรับโครงการดังกล่าว 1หมื่นล้านบาทต่อปี” นายฉัตรชัย กล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า กรณีที่ ครม. เห็นชอบให้ธนาคารสามารถเข้าไปลงทุนในธุรกิจประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย กิจการรับจัดทำสัญญาและจดทะเบียนนิติกรรม การเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต นั้น เพื่อต้องการให้ภาระเบี้ยประกันของลูกค้าและค่าบริการถูกลง และสามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร รวมไปถึงการให้บริการทางการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น อี-วอลเลต อี-มันนี่ เพื่อทำให้ ธอส.เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยได้อย่างทั่วถึง โดยบริการผ่านแอ็บพลิเคชั่น หรือรับชำระเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์อย่างเดียว แต่คงไม่ให้บริการบัตรเครดิต เพราะไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจของ ธอส.