นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร เปิดเผยว่าจากการที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอร่างโครงสร้างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณา โดยเฉพาะประเด็นที่ดินว่างเปล่าในอัตราไม่เกิน 2% หรือล้านละ 2 หมื่นบาท จะทำให้ผู้ที่มีที่ดินสะสมในมือจำนวนมากหรือแลนด์ลอร์ดจะต้องทยอยนำที่ดินออกมาขาย
ทั้งนี้ การถือครองที่ดินเปล่าต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงมาก เช่น ที่ดินราคาประเมิน 1,000 ล้านบาท ต้องเสียภาษีถึงปีละ 20 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีที่ดินถูกนำออกขายในท้องตลาดเพิ่มมากขึ้น แต่จะไม่ทำให้ราคาที่ดินตก
ขณะที่แหล่งข่าววงการอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า กฎหมายภาษีที่ดินฯ ต้องการสนับสนุนให้นำที่ดินออกมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่การเร่งผลักดันกฎหมายออกมาในจังหวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว และบรรยากาศไม่เอื้อต่อการลงทุน ทำให้ดูเป็นสิ่งที่สวนทางกัน จึงอยากให้พิจารณาอย่างรอบคอบ
ด้าน นายอิสระ บุญยัง ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาษีที่ดินฯ มีข้อดีที่ช่วยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ทำให้ท้องถิ่นมีรายได้เป็นของตัวเอง แต่หากจะประกาศใช้จริง ควรกำหนดรายละเอียดในบางประเด็นให้ชัดเจน ด้าน นายอิสระ บุญยัง ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาษีที่ดินฯ มีข้อดีที่ช่วยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ทำให้ท้องถิ่นมีรายได้เป็นของตัวเอง แต่หากจะประกาศใช้จริง ควรกำหนดรายละเอียดในบางประเด็นให้ชัดเจน อาคารที่กล่าวถึงจะเข้าข่ายเชิงพาณิชย์และจะต้องเสียภาษีในอัตราเดียวกับเชิงพาณิชย์ สูงสุดไม่เกิน 0.5% ของมูลค่าทรัพย์สิน ส่วนที่อยู่อาศัยไม่เกิน 0.1% และเกษตรกรรม ไม่เกิน 0.05%