จีน มอง ยกเลิกวีซ่าระหว่างไทย-จีนมีความเป็นไปได้ อาจทดลองยกเลิกวีซ่าระยะสั้นก่อนแล้วค่อยขยายเป็นระยะยาว ชี้โครงการเส้นทางสายไหมพร้อมเปิดกว้างทุกประเทศเข้าร่วม
นายซุน เจี่ยเจิ้ง ประธานสมาพันธ์เครือข่ายองค์การภาคเอกชนและประธานมูลนิธิเพื่อสันติภาพและการพัฒนาของจีน เผยว่า จากการหารือกับ นายโภคิน พลกุล ประธานสมาคมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย-จีน ถึงความเป็นไปได้ที่จะยกเลิกวีซ่าระหว่างจีนกับประเทศในอาเซียนนั้น ทางจีนก็อยากจะดำเนินตามข้อเรียกร้องดังกล่าวเช่นเกัน แต่เป็นเรื่องที่จีนไม่สามารถทำได้ฝ่ายเดียวได้ เพราะต้องคุยกับแต่ละประเทศ
ทั้งนี้จีนได้ยกเลิกวีซ่าของนักท่องเที่ยวแล้วในบางพื้นที่ แต่เมื่อยกเลิกแล้วจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ต้องมีการวางแผนบริหารจัดการพื้นที่อย่างเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าควรทำการยกเลิกวีซ่าไปพร้อม ๆ กับการบริหารจัดการ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวไทยไปประเทศจีนจำนวนมากและมีนักท่องเที่ยวจีนไปยังเมืองไทยก็มากเช่นกัน ดังนั้นจึงควรส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นายซุน กล่าวต่อว่า การยกเลิกวีซ่านั้นมีความเป็นไปได้ โดยจะมีการยกเลิกวีซ่าในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อทดสอบและค่อยขยายเวลาออกเป็นระยะยาว อย่างไรก็ตามตนมองว่าไม่ว่าจะมีการยกเลิกวีซ่าในระยะสั้นหรือยาว ก็ควรเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว และเป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ประเทศควรเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายในการยกเลิกวีซ่า
อย่างไรก็ตามในการศึกษาแนวคิดเส้นทางสายไหมทางบกและทางทะเล (One Belt One Road) ซึ่งเป็นเส้นทางค้าขายแบบโบราณของจีนกับบรรดาคู่ค้าชาติต่าง ๆ ที่จะมีความสำคัญกับไทยในอนาคตนั้น ทางจีนจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะเริ่มศึกษาตอนไหนดี แต่เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายอยากศึกษาอยู่แล้ว เพราะโครงการดังกล่าวมีความสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจการค้ากับทุกประเทศที่เส้นทางนี้พาดผ่าน โดยแต่ละประเทศมีสิทธิที่จะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมตามแต่จะเลือกและหวังว่าโครงการนี้จะได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศ