น.ส.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการชำระหนี้ตามที่กยศ.
เสนอ โดยทำข้อตกลงกับองค์กรนายจ้าง จัดโครงการรณรงค์ให้พนักงานชำระหนี้กยศ. ผ่านการหักบัญชีเงินเดือน โดยมีแรงจูงใจสำหรับผู้ที่ไม่ค้างชำระ จะมีส่วนลดหักเงินคืนจำนวนหนึ่ง ซึ่งในส่วนของหน่วยงานราชการมีกรมบัญชีกลาง และมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นต้นแบบ
ในการชำระหนี้ผ่านการหักบัญชีเงินเดือน โดยองค์กรนายจ้างสามารถยื่นความจำนงเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นอกจากนั้นที่ประชุมยังเห็นชอบกำหนดเป้าหมายจำนวนผู้กู้ยืมในปีการศึกษา 2559 แบ่งเป็น ผู้กู้กยศ.ทั้งรายเก่าและรายใหม่ จำนวน 714,140 ราย วงเงินให้กู้ยืมจำนวน 29,898 ล้านบาท กองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ทั้งรายเก่าและรายใหม่ จำนวน 146,378 ราย วงเงินให้กู้ยืมจำนวน 9,172 ล้านบาท
น.ส.ฑิตติมากล่าวต่อว่า สำหรับตัวเลขผู้กู้กยศ. ปีการศึกษา 2558 ข้อมูลล่าสุดมีผู้ยื่นกู้ทั้งหมดจำนวน 745, 524 ราย แบ่งเป็น ผู้กู้รายเก่า 517,044 ราย ผู้กู้รายใหม่ จำนวน 228,480 ราย ส่วนจำนวนผู้กู้ กรอ. จำนวน 94,744 ราย แบ่งเป็นผู้กู้รายเก่า 56,385 ราย ผู้กู้รายใหม่ จำนวน 38,359 ราย
ส่วนความคืบหน้าในเรื่องการดำเนินการดำเนินคดีกับผู้กู้ที่ผิดนัดชำระเงินกู้กยศ. นั้นในปี 2558 กยศ.ได้ดำเนินการฟ้องร้องไปแล้ว จำนวน 120,622 ราย
ส่วนปี 2559 มีผู้ที่กองทุนจะบอกเลิกสัญญาและเตรียมดำเนินการฟ้องร้องอีกประมาณ 130,000 ราย โดยกยศ.จะอนุมัติให้ฟ้องในเดือนเมษายน และจะดำเนินการฟ้องร้องในช่วงเดือนมิถุนายน-พฤษภาคม
ดังนั้นขณะนี้จึงยังพอมีเวลา อยากให้ผู้ที่ค้างชำระและรู้ตัวว่าเข้าข่ายจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเร่งติดต่อกยศ.เพื่อขอชำระหนี้ที่ค้างจะได้ไม่ต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี