นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ภายในวันที่ 16 ก.พ. นี้ ธอส.จะเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการบ้านประชารัฐ จากนั้น 2 สัปดาห์ จะเปิดรับลงทะเบียนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ โดยจะเริ่มที่สำนักงานใหญ่ก่อน คาดว่าจะผู้ให้ความสนใจลงทะเบียนเบื้องต้นหลักหมื่นราย รวมทั้งจะเปิดรับสมัครผู้ประกอบการที่จะนำโครงการที่อยู่อาศัยมาเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย คาดว่าระยะแรกจะดำเนินการได้ภายในเดือนมี.ค.นี้ เบื้องต้นธอส.จะนำสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) จากธนาคารของรัฐ ที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) กรมธนารักษ์ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บบส.) บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) รวมถึงการสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินราชพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวมกว่า 2,500 ยูนิต มานำร่องก่อน นอกจากนั้น ยังมีเอ็นพีเอจากภาคเอกชนอีกกว่า 9,000 ยูนิต ส่วนราคาเริ่มต้น ห้องชุดยูนิตละ 700,000 บาท บ้านแถว ยูนิตละ 900,000 บาท พร้อมกันนี้ ธอส.มีเป้าหมายที่จะปล่อยสินเชื่อปีนี้ 160,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่มีสินเชื่อใหม่ทั้งสิ้น 157,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.34% และเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 149,800 ล้านบาท ทำให้มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 862,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.63% มีสินทรัพย์รวม 900,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.12% มีเงินฝากรวม 726,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.36% นายฉัตรชัย ศิริไล รองกรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ขณะนี้กำลังหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อหาข้อสรุปคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ เบื้องต้น ต้องเป็นผู้มีรายได้เดือนละ 15,00-20,000 บาท และต้องไม่เคยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ใดมาก่อน โดยจะปล่อยกู้ให้ทั้งประชาชน และผู้ประกอบการ 100% เบื้องต้น วงเงิน 30,00 ล้านบาท ธอส.จะรับผิดชอบค่าโอนและจดจำนอง เป็นปีละ 270 ล้านบาท ส่วนเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้นั้น กำลังพิจารณา คาดว่าเป็นดอกเบี้ยต่ำ คงที่นาน 5-6 ปี เพื่อแบ่งเบาภาระผู้มีรายได้น้อยในการผ่อน งวดละ 2,000-4,100 บาท เช่น บ้านแถวขายขาด 3 ปีแรก ผ่อนเดือนละ 3,000 บาท 2 ปีต่อมา เดือนละ 3,400 บาท หลังจากนั้นดอกเบี้ยลอยตัว เดือนละ 4,100 บาท แต่หากเป็นห้องชุดบนที่ดินเช่า 3 ปีแรก เดือนละ 2,500 บาท ลอยตัวเดือนละ 2,900 บาท เป็นต้น
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/economic/377507
