#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #สินเชื่อสำหรับคนไทยในต่างประเทศ #บ้านและสินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ
#สินเชื่อคนไทยในต่างแดน #สินเชื่อบ้านเพื่อคนไทยที่ทำงานในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านที่ไทย #สินเชื่อบ้านคนไทยในต่างแดน
เครดิตบูโร รายงานข้อมูลเครดิต ที่เป็นเหมือนสมุดพกรายงานพฤติกรรมการใช้ และการชำระสินเชื่อทั้งหมดของเรา
คนที่เคยขอสินเชื่อหรือกำลังอยู่ระหว่างเตรียมตัวเพื่อขอสินเชื่อ คงคุ้นเคยกับคำว่า เครดิตบูโร หรือ ข้อมูลเครดิต กันพอสมควร เพราะรายงานข้อมูลเครดิตเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ใช้ร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ แล้วถ้าเราไม่ได้จะขอสินเชื่อล่ะ การตรวจข้อมูลเครดิตของตัวเองจะบอกอะไรกับเราเรามีคำตอบมาฝาก
ทำความรู้จักกันก่อนว่าข้อมูลเครดิตคืออะไร ใครเป็นคนเก็บ
ข้อมูลเครดิตเป็นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของคนแต่ละคน ซึ่งจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูล 2 ส่วน คือ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงตัวตนลูกค้า และข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติและประวัติการชำระ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเคยทำบัตรเครดิตมากี่ใบ ขอสินเชื่อรถมากี่คัน ขอสินเชื่อบ้านมากี่หลัง บัญชีนั้นจะอยู่ระหว่างใช้งาน ผ่อนชำระ หรือปิดบัญชีไปแล้ว ก็มีแสดงในรายงานข้อมูลเครดิตทั้งหมด ถ้าจะพูดในเชิงเปรียบเทียบ ก็คล้ายกับสมุดพกรายงานข้อมูลทางด้านการเงิน พฤติกรรมการใช้และการชำระสินเชื่อของแต่ละคนนั่นเอง
ตัวเลขบอกสถานะอย่างไร
ในรายงานข้อมูลเครดิตนั้น แสดงประวัติการชำระหนี้ย้อนหลังรวม 36 เดือน โดยข้อมูลล่าสุดจะแสดงอยู่ด้านบน สำหรับความหมายของสถานะบัญชีในปัจจุบันเป็นอย่างไร จะมีตัวเลขกำกับอยู่ เราลองไปดูความหมายของรหัสเลขต่างๆ กัน
10 ปกติ แปลว่า บัญชีนี้มีการชำระสินเชื่อตามปกติ จ่ายครบ จ่ายตรงตามเงื่อนไข ไม่มียอดค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน
11 ปิดบัญชี แปลว่า สินเชื่อบัญชีนี้ได้มีการปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว ไม่มีหนี้ค้าง
12 พักชำระหนี้ ตามนโยบายรัฐ แปลว่า ที่ผ่านมาเคยมียอดค้างชำระ แต่ตอนนี้เข้าโครงการพักชำระหนี้ตามนโยบายรัฐ จึงทำให้สถานะไม่เป็นการค้างชำระ
20 หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน แปลว่า เคยค้างชำระในอดีต และปัจจุบันก็ยังก็ยังค้างอยู่ ซึ่งเป็นสถานะที่เป็นผลลบต่อตัวผู้เป็นลูกหนี้เจ้าของบัญชีนี้
เราควรตรวจข้อมูลเครดิตของตัวเองไหม
การตรวจข้อมูลเครดิตของตัวเอง นอกจากจะเป็นการตรวจเช็คข้อมูลตัวเองในเรื่องประวัติการชำระสินเชื่อทั้งหมดที่เรามีว่าเป็นอย่างไรแล้ว ยังช่วยตรวจสอบให้กับตัวเองอีกด้วยว่าเอกสารสำคัญส่วนตัวของเรานั้น ไม่มีใครนำไปแอบอ้างทำอะไรหรือไม่ เช่น ปลอมแปลงสำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารการเงินต่างๆ ไปสมัครสินเชื่อโดยใช้ชื่อเรา
ขอเช็คได้ที่ไหนบ้าง?
สำหรับใครที่อยากเช็กข้อมูลเครดิตของตัวเอง สามารถเตรียมบัตรประชาชนแล้วนำไปตรวจสอบแบบรอรับผลได้เลย ซึ่งมีจุดบริการหลายแห่งด้วยกัน เช่น
อาคารกลาสเฮ้าส์ (ชั้นใต้ดิน) ปากซอยสุขุมวิท 25
สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง
ห้างเจ-อเวนิว (นวนคร) ชั้น 4 ติดกับสำนักงานประกันสังคม
CITI สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ศูนย์การค้าเมกา บางนา
ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สำนักงานใหญ่ อาคาร 2 ชั้น 2
แต่หากใครไม่สะดวกเดินทางไปขอเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ก็สามารถมอบอำนาจได้ โดยเตรียมเอกสาร ดังนี้
บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาบัตรประชาชน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ของผู้มอบอำนาจ (ผู้ที่ต้องการตรวจเครดิตบูโร)
บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาบัตรประชาชน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ของผู้รับมอบอำนาจ
หนังสือมอบอำนาจตรวจสอบข้อมูลเครดิต สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.ncb.co.th
การตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตัวเอง ก็คล้ายกับการตรวจร่างกายประจำปี อย่างน้อยก็ช่วยให้เรารู้ว่าปีนี้ยังมีสุขภาพการชำระเงินที่แข็งแรงเหมือนเดิมอยู่ไหม
อย่าลืมว่า สุขภาพการเงินที่ดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง
*** แหล่งข้อมูล: บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (www.ncb.co.th) ***