#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #สินเชื่อสำหรับคนไทยในต่างประเทศ #บ้านและสินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ
#สินเชื่อคนไทยในต่างแดน #สินเชื่อบ้านเพื่อคนไทยที่ทำงานในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านที่ไทย #สินเชื่อบ้านคนไทยในต่างแดน
ช่วงเปิดเทอมใหญ่เดือนพฤษภาคมของทุกปี เรียกว่าเป็นช่วงที่ผู้ปกครองว้าวุ่นกับใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลาน ไม่ว่าจะค่าเทอมและค่าใช้จ่ายทั้งชุดนักเรียน ค่าหนังสือ จิปาถะอีกมากมาย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2560 ผู้ปกครองในกรุงเทพฯ และปริมณฑล น่าจะใช้จ่ายด้านการศึกษาสำหรับบุตรหลานคิดเป็นเม็ดเงินสะพัด 27,000 ล้านบาท ขยายตัว 4% เมื่อเทียบกับในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2559 โดยในจำนวนนี้ แบ่งเป็นค่าเทอม 12,900 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าเทอม (เช่น ค่าบำรุงการศึกษา) 4,500 ล้านบาท ค่ากิจกรรมพิเศษในโรงเรียน 4,200 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ (เช่น ค่าชุดนักเรียน หนังสือ และอุปกรณ์การเรียน ค่าเรียนกวดวิชา ค่าเรียนเสริมทักษะ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ) 5,400 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักเรียนใหม่ที่เข้าสู่ระบบการศึกษามีส่วนหนุนให้การใช้จ่ายด้านค่าเทอมเพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้ปกครองยังคงให้ความสำคัญกับการเรียนกวดวิชา จึงหนุนให้เม็ดเงินค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาสาหรับบุตรหลานของผู้ปกครองในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2560 โดยรวมยังสามารถขยายตัว เมื่อเทียบกับในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2559
ดังนั้น ในปีนี้ เพื่อสนับสนุนนโยบายช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ก่อหนี้นอกระบบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จึงออกสินเชื่อฉุกเฉินสำหรับผู้มีรายได้น้อย สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนบุตรหลานช่วงเปิดเทอม โดยเปิดให้ลงทะเบียนและขอกู้ได้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาทต่อครอบครัว คิดดอกเบี้ย 0.5-0.85%ต่อเดือน ผ่อนชำระได้ยาวถึง 60 งวด จนถึงเดือนก.พ.ปีหน้า เนื่องจากหลายครอบครัวจำเป็นต้องนำเงินไปใช้จ่ายค่าการศึกษา ก็สามารถเข้ามาขอกู้เงินฉุกเฉินกับธนาคารได้ ในเงื่อนไขที่ผ่อนปรน โดยเริ่มปล่อยกู้ฉุกเฉินตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจุบัน ธนาคารปล่อยกู้ไปได้แล้ว 1,100 ล้านบาท และคาดว่าในเดือนนี้ยอดจะเติบโตอีกมาก เห็นได้จากผลสำรวจการสนับสนุนเงินช่วยเหลือการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยปีที่แล้ว 1,500-3,000 บาท พบว่ามีการใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียนของบุตรหลานถึงร้อยละ 11 แสดงว่าเงินใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมมีความจำเป็นต่อผู้มีรายได้น้อยอยู่
ขณะเดียวกัน ทางธนาคารออมสิน ได้เตรียมสินเชื่อให้ประชาชนไปใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมหลายรูปแบบ ทั้งสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนกับออมสินแล้ว 1.5 แสนราย ในจำนวนนี้ยื่นขอสินเชื่อแล้ว 8 หมื่นราย และอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 1.5 หมื่นราย วงเงิน 600 ล้านบาท แต่คาดว่าในช่วง 1-2 เดือนจะมียอดอนุมัติจำนวนมากเพราะมีความต้องการสินเชื่อมาก นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ หรือเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ หรือชำระหนี้อื่นๆ รวมถึงสินเชื่อบัตรเงินสดประชาชนพร้อมใช้ พีเพิล คาร์ด เป็นบริการสินเชื่อเอนกประสงค์ ในรูปของวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน เพื่อเป็นวงเงินสำรองให้นำไปใช้จ่ายวงเงินสูงสุด 30,000 บาทโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน