#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #สินเชื่อสำหรับคนไทยในต่างประเทศ #บ้านและสินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ
#สินเชื่อคนไทยในต่างแดน #สินเชื่อบ้านเพื่อคนไทยที่ทำงานในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านที่ไทย #สินเชื่อบ้านคนไทยในต่างแดน
ใครๆ ก็อยากมีชีวิตที่สุขสบาย มีบ้าน มีรถ มีเงินไว้ใช้จ่ายอย่างไม่ขาดมือ ซึ่งการจะทำให้ชีวิตสุขสบายได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะต้องมีการวางแผนอนาคตเอาไว้ล่วงหน้า และมีเป้าหมายชัดเจนที่สามารถไปถึงได้ ซึ่งไม่ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร จะเป็นเป้าหมายเล็กหรือใหญ่ก็ตาม เราก็สามารถทำให้สำเร็จได้ ถ้ามีการเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีและมีแนวทางที่ดีที่จะพาเราไปสู่จุดหมาย วันนี้เราขอแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับ บันไดการเงิน 4 ขั้นที่จะทำให้ฝันของเพื่อนๆ เป็นจริงได้ รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกัน
1. ชัดเจนกับเป้าหมาย
เริ่มต้นด้วยการจดบันทึกเป้าหมายต่างๆ ที่เราต้องการทำให้สำเร็จ ถ้าใครมีหลายเป้าหมายก็ให้ใส่ความสำคัญของแต่ละเป้าหมายเอาไว้ด้วยว่า เป็นเป้าหมายที่สำคัญมากน้อยแค่ไหน มีวิธีดูง่ายๆ เลยคือ เป้าหมายที่สำคัญมากก็จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเราเป็นอย่างมากหากทำไม่สำเร็จ เช่น วางแผนเก็บเงินดาวน์บ้าน เพราะถ้าเก็บได้ไม่พอ อาจต้องเลื่อนการซื้อบ้านออกไปหรือได้บ้านหลังเล็กลงมา เก็บเงินสำหรับค่าเทอมลูกก็ถือเป็นเป้าหมายที่มีความสำคัญมากในระยะสั้น เพราะถ้าไม่มีเงินมาจ่ายค่าเทอมลูกนี่เป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว หรืออย่างแผนเกษียณอายุก็สำคัญมากเช่นกัน แต่สำคัญมากในระยะยาว สำหรับเป้าหมายที่สำคัญน้อย หากเราไม่บรรลุเป้าหมายก็ไม่ได้ส่งผลอะไรในชีวิตของเรามากนัก เช่น อดไปเที่ยวต่างประเทศ หรือไม่ได้ซื้อมือถือใหม่ ก็ไม่ได้กระทบอะไรเรามากมาย
ต่อมาให้บันทึกด้วยว่า แต่ละเป้าหมายนั้นเราต้องการทำให้สำเร็จภายในกี่ปี เช่น ภายใน 3 ปี ถือเป็นเป้าหมายระยะสั้น ระหว่าง 3-5 ปี เป็นเป้าหมายระยะปานกลาง ถ้ามากกว่า 5 ปีขึ้นไป เป็นเป้าหมายระยะยาว จะได้วางแผนเก็บเงินในแต่ละปีได้ถูก และรู้ว่าปีนี้ ปีหน้า และปีต่อๆ ไป จะต้องเริ่มเก็บเงินอย่างไร ซึ่งระยะเวลาที่จะบรรลุเป้าหมายนั้นจะมีผลต่อการเลือกเก็บออมเงินต่อไป
2. ตีเป้าหมายเป็นตัวเงิน
ขั้นต่อมาให้เราตีเป้าหมายออกมาเป็นตัวเงิน โดยกำหนดมูลค่าเป้าหมายนั้นๆ ให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด จะได้รู้ว่าในแต่ละเป้าหมายต้องใช้เงินเท่าไร ปีไหนใช้เงินมากน้อยแค่ไหน แล้วลองสำรวจเงินในกระเป๋าที่เรามีอยู่ ดูว่ามีเท่าไร โดยให้จับคู่เงินที่มีกับแต่ละเป้าหมายที่วางไว้ หากมีส่วนต่างที่ขาดหายไปนั่นคือจำนวนเงินที่ต้องเก็บออมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บางเป้าหมายอาจยังไม่ได้เริ่มต้นทำในวันนี้ แต่ก็ควรวางแผนจัดสรรให้ดี บางครั้งเราอาจเลือกทำเป้าหมายระยะสั้นให้เสร็จก่อนก็ได้จะได้มีกำลังใจ แล้วค่อยทำเป้าหมายระยะยาวต่อไป
3. เก็บเงินและลงทุนอย่างถูกวิธี
ต่อไปเป็นการเลือกเก็บเงินและสินทรัพย์ลงทุนให้เหมาะสมกับระยะเวลาในการใช้เงินและความเสี่ยงที่เรารับได้ โดยเป้าหมายที่มีความสำคัญมากและเป็นเป้าหมายระยะสั้น ไม่แนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เก็บเงินดาวน์บ้านในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะสั้นที่มีความสำคัญมาก ก็ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนตราสารหนี้ แต่ถ้าจะเก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งมีความสำคัญปานกลางถึงน้อยแล้วล่ะก็ อาจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงได้บ้าง อย่างกองทุนรวมผสมที่มีการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ ซึ่งหากลงทุนไม่ได้ตามเป้าหมายก็ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราแต่อย่างใด
4. ติดตามผล เดินตามแผน
สุดท้ายให้ตรวจสอบวินัยทางการเงิน รวมถึงผลตอบแทนจากการออมและลงทุนเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยสักปีละ 2 ครั้ง หากไม่เป็นไปตามแผนที่ตั้งใจไว้ จะได้ติดตามหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แล้วรีบจัดการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ฝันไว้ให้ได้ ซึ่งจากตัวอย่างการเก็บเงินเพื่อดาวน์บ้านกับการไปเที่ยวต่างประเทศในอีก 2 ปีข้างหน้านั้น หากใกล้ครบ 2 ปีแล้ว ยังเก็บเงินไม่ได้ตามเป้า อาจเลือกวิธีที่จะไปให้ถึงเป้าหมายด้วยการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพื่อให้เก็บเงินได้มากขึ้น แล้วเลือกทำแผนดาวน์บ้านที่มีความสำคัญมากกว่า โดยเลื่อนทริปไปเที่ยวต่างประเทศออกไปก่อน
สิ่งสำคัญที่สุดในการวางแผนอนาคตคือ เริ่มต้นลงมือทำอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ หากมีเป้าหมายหลายอย่างก็ควรแยกบัญชีของแต่ละเป้าหมายออกจากกัน เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามผล ทั้งนี้ การวางแผนอนาคตไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และมีจิตใจที่เข้มแข็งนั้น สำคัญกว่าการมีเงินทองมากมายหลายเท่า ดังนั้น ควรดูแลตัวเองให้ดี หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุขที่สุด