#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #สินเชื่อสำหรับคนไทยในต่างประเทศ #บ้านและสินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ
#สินเชื่อคนไทยในต่างแดน #สินเชื่อบ้านเพื่อคนไทยที่ทำงานในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านที่ไทย #สินเชื่อบ้านคนไทยในต่างแดน
ซึ่งภายหลังรัฐบาลเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกระทรวงการคลังได้ข้อสรุปแนวทางการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณา ก่อนการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
และทางกระทรวงการคลังจะส่งข้อมูลรายชื่อต่างๆให้กับกระทรวงมหาดไทย เพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงตรวจสอบข้อมูลการถือครองทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ด้วย
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คาดว่าถึงมือผู้มีรายได้น้อย ภายในช่วงเดือนกันยายน เพื่อให้ประชาชน สามารถนำไปใช้รับสวัสดิการในเดือน ตุลาคม โดยคาดว่า จะมีประชาชนผ่านเกณฑ์ได้รับสิทธิ์ประมาณ 12 ล้านคน
สำหรับเเนวทางการช่วยเหลือ แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะเเรก จะนำความช่วยเหลือเดิมที่กระจายในหลายหน่วยงานมารวมกัน เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างตรงจุด ตามความต้องการพื้นฐานอาชีพและถิ่นที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย สวัสดิการเกี่ยวกับการเดินทาง รถเมล์ รถไฟฟรี ที่เป็นงบเดิม ของกระทรวงคมนาคม ค่าน้ำ ค่าไฟฟรี ของกระทรวงมหาดไทย ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มของกระทรวงพลังงาน รวมถึงการให้งบประมาณ ซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าประชารัฐจากกระทรวงพาณิชย์ รวมงบประมาณที่จะใช้30,000ล้านบาท
ส่วนระยะที่สอง เป็นโครงการเพิ่มเติมที่จะเริ่มใช้ปีนี้ จะใช้งบจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก 50,000 ล้านบาท เช่น การช่วยเหลือเรื่องส่วนลดค่าโดยสารรถ บขส. ของคนต่างจังหวัดส่วนลดรถไฟฟ้า เเละการช่วยเหลือค่าเช่าที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายน้อยที่ย้ายถิ่นฐานการทำงาน แต่เจ้าของที่พักอาศัยบ้านเช่าต้องจดทะเบียน และเสียภาษีอย่างถูกต้อง รวมถึงติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเลคทรอนิกส์ หรือ อีดีซี จากรัฐ
ทั้งนี้ โครงการช่วยเหลือดังกล่าวจะเป็นการเติมเงินเข้าบัตร โดยไม่มีการจ่ายเป็นเงินสด ซึ่งธนาคารกรุงไทย อยู่ระหว่างจัดทำและออกแบบ โดย ใน 1 บัตร จะมีความช่วยเหลือ 20 ประเภท เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง หากใช้สวัสดิการในส่วนใดไม่หมด เงินช่วยเหลือนั้นก็จะกลับเข้าสู่กองทุนทันที และเริ่มจ่ายเงินเข้าบัตรใหม่ทุกต้นเดือน
ยกตัวอย่าง หากได้รับความช่วยเหลือ เดือนละ 500 บาท หากใช้ไม่หมด ก็จะถูกตัดจะไม่มีการสะสมไว้ในบัตร