#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน
แสดงที่มาของรายได้ สร้างความน่าเชื่อถือในงานที่ทำ รักษาประวัติและวินัยการเงินที่ดี ก็มีโอกาสขอสินเชื่อผ่านไม่ยาก
หลักการง่ายๆ สำหรับใครก็ตามที่ต้องการขอสินเชื่อ นั่นคือ ผู้กู้ต้องสามารถพิสูจน์ได้ถึง การมีรายได้ ความสามารถในการมีรายได้นั้นตลอดระยะเวลาในการขอสินเชื่อ และความน่าเชื่อถือ ซึ่งใครก็ตามที่มีคุณสมบัติทั้ง 3 ข้อข้างต้นที่ดีพอ ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งกำหนด ย่อมมีโอกาสได้รับสินเชื่อไป ซึ่งถ้าเป็นพนักงานประจำ มีรายได้ประจำ มีการงานที่มั่นคง (ผ่านโปรแล้ว ไม่ได้จะถูกเลิกจ้างก่อนครบกำหนดอายุสินเชื่อที่ขอไป) มีประวัติการชำระเงินในอดีตที่ดี เช่นนี้แล้วการขอสินเชื่อใดๆ ก็เหลือแค่พิจารณาว่าจะให้วงเงินเท่าไรภายใต้อัตราดอกเบี้ยแบบใดจึงจะเหมาะสม แต่ถ้าเป็นคนที่มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการ ที่รายได้ขึ้นอยู่กับสภาวะการทำธุรกิจที่อาจได้มาก ได้น้อย หรือขาดทุนไม่มีรายได้ในบางช่วงเวลา เช่นนี้แล้วการขอสินเชื่อย่อมต้องมีการเตรียมตัวและแต่งตัวให้พร้อมกว่า เพราะด้วยคำว่า ไม่แน่นอน ของผู้ขอสินเชื่อ คือ คำที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในมิติของผู้ให้สินเชื่อ
ฟรีแลนซ์ หรือผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ เป็นหนึ่งในผู้ที่มีความไม่แน่นอนดังที่กล่าวไว้ การจัดการความไม่แน่นอนเพื่อให้ขอสินเชื่อให้ผ่าน จึงเป็นการทำให้ ความไม่แน่นอน ลดความน่ากลัวลง วันนี้เรามีหลักการจัดการมาแนะนำดังนี้ค่ะ
1. จัดการรายได้ที่ไม่แน่นอนให้มีความแน่นอน
คำว่าแน่นอนหมายถึงการแสดงความสม่ำเสมอ ตามแต่กรอบเวลาของแต่ละคน เช่น หากเป็นฟรีแลนซ์ที่รับงานเป็นโปรเจ็กต์ และเก็บเงินเป็นงวด หรือรับเงินเป็นก้อนหลังโปรเจ็กต์จบ ต้องแสดงให้เห็นว่า ในแต่ละเดือน หรือรอบสามเดือน หรือในรอบปี มีรายได้เป็นอย่างไร มีรอบการรับเงินสม่ำเสมอหรือไม่ และตัวเลขที่ได้รับมีขั้นสูง ขั้นต่ำหรือค่าเฉลี่ยเป็นอย่างไร การแสดงดังกล่าวสามารถใช้การเดินบัญชี ภายหลังการรับรายได้ทุกครั้งควบคู่ไปกับหลักฐานเอกสารการรับเงิน ไม่ว่าจะเป็น เอกสารทวิ 50 ใบเสร็จ หนังสือสัญญา หรือเอกสารการจ้างงาน ส่วนจะต้องเดินบัญชีเป็นระยะเวลานานแค่ไหน ก็คงต้องบอกว่า ระยะเวลายิ่งยาวยิ่งดี หรืออย่างน้อยมีสัก 6 เดือน ขึ้นไป ก็น่าจะถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
2. แสดงความมีตัวตนและธุรกิจที่ทำ
ด้วยการพิสูจน์ว่าธุรกิจที่ผู้ขอสินเชื่อทำอยู่นั้น มีอยู่จริง งานที่ทำหรือประเภทโปรเจกต์ที่รับทำนั้นเป็นจริงดังที่ได้แถลงไว้ในใบสมัครขอสินเชื่อ ซึ่งการพิสูจน์นั้นก็ทำได้หลายทาง เช่น การมีการจดทะเบียนธุรกิจ หรือ ถ้าหากทำผ่านช่องทางออนไลน์ก็จำเป็นที่จะต้องแสดงให้เห็นถึงเว็บไซต์ของตนเอง หรือหน้า Facebook ที่มีข้อมูลระบุตัวตนและการประกาศรับงาน เป็นต้น
3. สร้างความน่าเชื่อถือ
ผู้ขอสินเชื่อจำเป็นต้องหาบุคคลหรือองค์กร ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวผู้ขอสินเชื่อมาช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้น เช่น การมีคู่ค้าเป็นองค์กรที่มีความมั่นคงสูง มีชื่อเสียง (พิสูจน์ด้วยสัญญาจ้าง หรือเอกสารการรับเงินที่ต่อเนื่อง) หรือแม้แต่การแสดงให้เห็นถึงความมีเชื่อเสียงของตัวผู้กู้เองผ่านผลงานที่มีรางวัล หรือมีบุคคลอื่นรับประกัน เช่นช่างแต่งหน้า ที่มีผลงานแต่งหน้าให้กับนางแบบลงนิตยสารที่เป็นที่นิยม และได้รับเครดิตขึ้นชื่อภายใต้ผลงานการแต่งหน้านั้นๆ ลงในนิตยสาร
4. รักษาประวัติที่ดี
ส่วนนี้สถาบันการเงินจะตรวจสอบเอาจากประวัติข้อมูลเครดิตของผู้ขอกู้อยู่แล้ว การสร้างประวัติที่ดีไม่ได้ยากเย็น เพราะสถาบันการเงินหรือผู้ให้กู้ทุกรายต่างต้องการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่มีประวัติการชำระคืนหนี้สม่ำเสมอ ไม่มีประวัติเสียด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นทุกครั้งที่มีการใช้สินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์หรือคนทำงานประจำ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเข้าใจตรงกันว่า ประวัติการชำระสินเชื่อถือเป็นหลักฐานแสดงนิสัยการใช้เงินและความรับผิดชอบของคนได้เป็นอย่างดี
5. มีวินัยทางการเงิน
ด้วยการแสดงให้เห็นถึงการมีเงินเหลือใช้ และสะสมเงินเหลือใช้นั้นไว้สำรองหรือไว้สำหรับเป้าหมายในอนาคต แสดงการเติบโตเพิ่มขึ้นของเงินเหลือใช้ให้สม่ำเสมอในรูปของการออมเงินในบัญชีเงินออมเพื่อเป้าหมาย บัญชีเงินออมเพื่อใช้ยามฉุกเฉิน หรือการมีบัญชีเพื่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็นบัญชีกองทุนรวม หรือบัญชีหุ้น ที่มีการออมหรือลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะต้องเข้าใจว่า ต่อให้มีรายได้จากการทำงานทุกเดือนเดือนละ กี่แสนบาทก็ตาม ก็ไม่เท่ากับการที่รายได้ที่มีนั้นไม่ได้ถูกใช้ไปจนหมด แต่ยังมีส่วนเหลือและถูกสำรองเอาไว้ใช้สำหรับอนาคตได้ด้วย หลายครั้งที่กลุ่มฟรีแลนซ์รุ่นใหม่ พึ่งเริ่มต้น จำเป็นจะต้องใช้เงินออมหรือเงินสำรองของตนเองเหล่านี้เป็นส่วนค้ำประกันเงินกู้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการกู้เงินในช่วงที่กำลังเริ่มต้นสร้างความสม่ำเสมอของรายได้หรือสร้างความน่าเชื่อถือ
จะเห็นว่า ในความไม่แน่นอนของกลุ่มฟรีแลนซ์ ก็ใช่ว่าจะแก้ไขไม่ได้ เพียงแต่ว่า หลายคนยังไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรเท่านั้น ที่สำคัญการขอสินเชื่อมักจะมาในจังหวะที่ไม่รู้ตัว หลายต่อหลายครั้งฟรีแลนซ์ที่ไม่ได้เตรียมตัวไว้ให้ดีตั้งแต่แรก ก็จะไม่พร้อมที่จะหาหลักฐานหรือแสดงให้เห็นทั้ง 5 รายการหรือแม้แต่รายการสำคัญๆ สัก 1-2 รายการ ดังที่ยกมาข้างต้น บทสรุปที่สำคัญจึงเป็นเรื่องของการเตรียมพร้อม ทำความเข้าใจในสิ่งที่สถาบันการเงินต้องการ เก็บเอกสารหลักฐาน จัดการบันทึกข้อมูลสำคัญจำเป็น พยายามสร้างผลงานและพิสูจน์สิ่งที่สะท้อนความสามารถและชื่อเสียงของเราเอาไว้ให้ดี และสม่ำเสมอ ตั้งแต่ปัจจุบันไม่ต้องรอว่าจะขอสินเชื่อแล้วค่อยทำเท่านี้ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็จะมีโอกาสในการขอสินเชื่ออย่างที่ต้องการได้ทั้งสิ้น