#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย
จากแนวโน้มของเศรษฐกิจประเทศที่ผันแปรตามเศรษฐกิจโลก จึงทำให้นักวิเคราะห์ต่างออกมาคาดการณ์ถึงแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อ ที่อาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางข้อจำกัดของภาวะหนี้ครัวเรือน และปัจจัยอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นทางฝั่งของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมายืนยันคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตลอดปี 61 ท่ามกลางความสงสัยของผู้บริโภคว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ หากภาพรวมเศรษฐกิจยังเดินหน้าเติบโตต่อเนื่อง
ภาพรวมเศรษฐกิจดี อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น จริงหรือไม่?
ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในช่วงครึ่งปี 2561 พบว่ามีการเติบโตที่ดีขึ้น สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโลก อันเป็นผลจากปัจจัยด้านการส่งออก และการลงทุนของภาครัฐที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น จึงทำให้นักวิเคราะห์หลายรายต่างคาดการณ์ถึงแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย ที่อาจปรับตัวตามสถานการณ์ดังกล่าวถึง 1% ซึ่งถือว่าเยอะที่สุดในรอบ 12 ปี
ทั้งนี้จากการคาดการณ์ถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้ทั้งผู้ประกอบการอสังหาฯ และผู้บริโภคเกิดความกังวลว่าจะส่งผลต่อภาวะหนี้ครัวเรือน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระดับสูงหรือไม่ โดยล่าสุดทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่มีการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน ทั้งนี้จะยังคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% เนื่องจากเป็นระดับที่สามารถกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าไปได้ ประกอบกับยังเอื้อประโยชน์ต่อผู้บริโภค ไม่ทำให้เกิดภาระหนี้ครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นจากเดิม
แนวโน้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยปี 61
สำหรับแนวโน้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 61 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ออกเผยข้อมูลถึงการเติบโตอย่างมีข้อกดดันแม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศจะดีขึ้นก็ตาม ทั้งนี้เป็นผลจากหลายปัจจัยดังนี้
ภาวะหนี้ครัวเรือนและสังคมสูงอายุ
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดลูกค้าที่มีศักยภาพลดลง เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ต่างแบกรับภาระหนี้จากสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน อย่างกรณีผ่อนรถยนต์ ดังนั้นจึงทำให้ยอดการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยลดลง ประกอบกับกลุ่มผู้สูงอายุยังคงมีข้อจำกัดในการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ถึงแม้ว่าสถาบันการเงินจะจัดกลยุทธ์เพื่อรองรับกลุ่มผู้สูงอายุแล้วก็ตาม
สัดส่วน NPL
สัดส่วนของ NPL หรือหนี้เสียที่มีการค้างชำระเกิน 90 วัน ในกลุ่มวงเงินระดับบนนั้นสูงขึ้น ทำให้เกิดข้อจำกัดของการเติบโตสินเชื่อที่อยู่อาศัย
FinTech
การเข้าถึงสถาบันการเงินได้ง่ายและรวดเร็วด้วยระบบออนไลน์ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกเยอะขึ้น และทำให้เกิดการแข่งขันด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างรุนแรง
สถาบันการเงินรัฐ พร้อมใจคงอัตราดอกเบี้ย จัดโปรโมชั่นหนุนกำลังซื้อผู้บริโภค
ด้านสถาบันการเงินของรัฐ ได้กระตุ้นกลยุทธ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อหนุนกำลังซื้อผู้บริโภค พร้อมผลักดันให้ภาพรวมของสินเชื่อเติบโตขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันในสถาบันการเงินอย่างดุเดือด โดยมุ่งเน้นทั้งการคงอัตราดอกเบี้ยและรองรับกลุ่มผู้สูงอายุดังนี้
ธอส. ผุดสินเชื่อบ้านใหม่ คงดอกเบี้ย 3.99% นาน 10 ปี
ด้วยข้อจำกัดการขอสินเชื่อของผู้สูงอายุ จึงทำให้เกิดข้อจำกัดการเติบโตสินเชื่อที่อยู่อาศัย เหตุนี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จึงจัดสินเชื่อบ้านบุพเพสันนิวาส พร้อมรองรับให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ด้วยการคงอัตราดอกเบี้ย 3.99% นานถึง 10 ปี ส่วนปีที่ 11 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR-1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีกู้ซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.75% ต่อปี)
ออมสิน เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุ
ขณะที่ธนาคารออมสิน เดินหน้าจัดสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน โดยเมื่อช่วงปลายที่แล้ว ได้เปิดตัวสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ สินเชื่อรูปแบบใหม่ในวงการสินเชื่อที่อยู่อาศับสำหรับประเทศไทย พร้อมจัดโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี และยกเว้นค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อ สำหรับผู้ที่ได้รับการกู้สินเชื่อในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้สูงอายุที่ต้องการซื้อบ้าน
อย่างไรก็ตามแม้แนวโน้มของสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะเติบโตตามเศรษฐกิจ แม้จะมีข้อจำกัดหลายปัจจัยทั้งหนี้ครัวเรือน สังคมผู้สูงอายุ หรือแม้แต่สัดส่วนของ NPL แต่ถึงกระนั้นก็มีหลายฝ่ายต่างออกมากล่าวถึงแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่อาจปรับตัวสูงขึ้น แม้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะออกมาประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ระดับ 1.5% ตลอดปี 61 ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เกิดแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดกำลังซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ ก่อนที่แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยอาจจะปรับขึ้นในปีหน้าตามที่คาดการณ์ไว้ สิ่งนี้อาจจะต้องจับตาดูความคืบหน้ากันต่อไป