#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย
ประธานธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. เผยยอดสินเชื่อใหม่ปีนี้จะปล่อยได้ตามเป้าหมายจำนวน 2 แสนล้านบาท เตรียมกลับมาปล่อยสินเชื่อโปรเจกต์ไฟแนนซ์ 1 พันล้านบาท
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) คาดว่า ในปีนี้ธนาคารจะมีสินเชื่อปล่อยใหม่ราว 2 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.89 แสนล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีสินเชื่อปล่อยใหม่แล้ว 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีจะออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้แก่หน่วยงานราชการทหารที่จะมีให้เลือก 2 แนวทาง คือ ดอกเบี้ยคงที่ 5 ปี ที่ 3.75% และดอกเบี้ยคงที่ 10 ปี ที่ 3.99% โดยมีวงเงินรวมเบื้องต้นที่ 3 หมื่นล้านบาท และผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่น ๆ ที่เตรียมจะออกมาเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้าตามพันธกิจทำให้คนไทยมีบ้าน จับมือกับพันธมิตรสร้างโอกาสให้คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามนโยบายรัฐบาล ควบคู่กับการยกระดับการให้บริการสู่ Digital Services อย่างเต็มรูปแบบ นำเทคโนโลยีมาปฏิรูปทุกกระบวนการทำงานภายในองค์กร บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผลประโยชน์กลับคืนสู่ประชาชนในรูปแบบของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำ เพื่อให้ลูกค้าประชาชนได้ใช้บริการที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ได้อย่างเท่าเทียมทุกระดับตอบโจทย์ยุค 4.0
นายสุรชัย ยังคาดว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นปี 2561 จะลดลงเหลือต่ำกว่า 4% จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 4% ซึ่งลดลงจากปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 4.5-4.6% ทั้งนี้ ธนาคารมีระบบการดูแลลูกค้าที่ดี มีการเจรจาผ่อนปรน นอกจากนี้ยังได้พิจารณาการปล่อยสินเชื่อให้เหมาะสมกับหลักประกัน และไม่ได้ละเลยลูกค้า โดยมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมด้วย
นอกจากนี้ ธนาคารเตรียมกลับมาปล่อยสินเชื่อโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือโปรเจกต์ไฟแนนซ์ (Project Finance) ให้ผู้ที่มีที่ดินเป็นของตนเองอยู่แล้ว โดยไม่นำที่ดินดังกล่าวมาเป็นต้นทุน วงเงินรวม 1 พันล้านบาท โดยจะให้กู้ไม่เกินรายละ 100 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำเพียง 4%
“เราไม่ได้ปล่อยกู้ในรูปแบบโปรเจกต์ไฟแนนซ์มาตั้งแต่ช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง แต่ตอนนี้เราจะเริ่มกลับมาปล่อยแล้ว ซึ่งเราจะเน้นไปในผู้ประกอบการที่เป็น Start up อสังหาริมทรัพย์ หรือพวกลูกอาเสี่ยต่าง ๆ ที่มีที่ดินเป็นของตัวเองพร้อมพัฒนาอยู่แล้ว เพื่อที่จะให้มีการเคลื่อนไหวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัดมากขึ้น” นายสุรชัย กล่าว
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาจากช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ธนาคารได้สร้างศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ขึ้น เพื่อจะเฝ้าระวังภาวะฟองสบู่ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ยังไม่พบภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างแน่นอน โดยจะเห็นจากสัดส่วนของการลงทุน การปั่นราคาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังน้อย การทำราคายังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยยังถือว่ามีความเข้มแข็งในปัจจุบัน