#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย
คนเมืองเตรียมวางแผนซื้อที่อยู่อาศัยระยะยาว หลังกระทรวงคมนาคมเตรียมเปิดประมูลรถไฟฟ้าอีก 4 สาย คือ สายสีม่วง-ส้ม-แดงเข้ม และ แดงอ่อน วงเงินเกือบ 3 แสนล้านบาท
เป็นที่แน่นอนแล้วว่ารัฐบาลได้เร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทั้งเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเป็นการแก้ปัญหาจราจรด้วยการใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนรถยนต์ส่วนตัว โดยล่าสุดได้เริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสองสายแรกแห่งประเทศไทย (โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วบนถนนศรีนครินทร์ เขตบางนา มีกำหนดเสร็จสิ้นพร้อมเปิดให้บริการ ปลายปี 2564 แม้การก่อสร้างดังกล่าวจะส่งผลให้การจราจรที่ติดขัดอยู่แล้ว มีปัญหาเพิ่มมากขึ้นไปอีก แต่ในอีก 3 ปีข้างหน้า ประชาชนที่อยู่บริเวณชานเมือง โดยเฉพาะย่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ที่เดิมมีเพียงรถไฟฟ้าบีทีเอส (สายสีเขียว) จะมีโอกาสได้เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพและหลากหลายมากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนซื้อบ้านหรือที่พักอาศัย
เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลส่วนที่เหลือ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 365,667 ล้านบาท ให้ครบ 10 สายทาง ตามแผนแม่บทภายในปี 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม เตรียมจะเปิดประมูล 4 โครงการ เงินลงทุน 298,831 ล้านบาท ได้แก่ สายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงิน 128,235 ล้านบาท สายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน วงเงิน 120,459 ล้านบาท สายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ-หัวหมาก และสายสีแดงเข้มช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง วงเงิน 50,137 ล้านบาท นอกจากนี้มีอีก 2 โครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคือ สายสีแดงอ่อนตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลายา วงเงิน 17,671 ล้านบาท และสายสีแดงเข้มรังสิต-ธรรมศาสตร์ วงเงิน 6,570 ล้านบาท รวมถึงเตรียมนำ 3 โครงการที่จะผลักดันต่อไป ได้แก่ สายสีเขียวส่วนต่อขยาย คูคต-ลำลูกกา สายสีเขียวต่อขยายสมุทรปราการ-บางปู และสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางแค-พุทธมณฑลสาย 4
ส่วนสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.4 กม. เงินลงทุน 1.2 แสนล้านบาท การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะเสนอให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาปลายปีนี้ ( 2561) เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยเอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56) ต่อไป
บ้าน-คอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าในอนาคตสายสีม่วง-ส้ม-แดง ราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
คนเมืองเตรียมวางแผนซื้อที่อยู่อาศัยระยะยาว หลังกระทรวงคมนาคมเตรียมเปิดประมูลรถไฟฟ้าอีก 4 สาย คือ สายสีม่วง-ส้ม-แดงเข้ม และ แดงอ่อน วงเงินเกือบ 3 แสนล้านบาท
เป็นที่แน่นอนแล้วว่ารัฐบาลได้เร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทั้งเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเป็นการแก้ปัญหาจราจรด้วยการใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนรถยนต์ส่วนตัว โดยล่าสุดได้เริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสองสายแรกแห่งประเทศไทย (โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วบนถนนศรีนครินทร์ เขตบางนา มีกำหนดเสร็จสิ้นพร้อมเปิดให้บริการ ปลายปี 2564 แม้การก่อสร้างดังกล่าวจะส่งผลให้การจราจรที่ติดขัดอยู่แล้ว มีปัญหาเพิ่มมากขึ้นไปอีก แต่ในอีก 3 ปีข้างหน้า ประชาชนที่อยู่บริเวณชานเมือง โดยเฉพาะย่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ที่เดิมมีเพียงรถไฟฟ้าบีทีเอส (สายสีเขียว) จะมีโอกาสได้เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพและหลากหลายมากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนซื้อบ้านหรือที่พักอาศัย
เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลส่วนที่เหลือ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 365,667 ล้านบาท ให้ครบ 10 สายทาง ตามแผนแม่บทภายในปี 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม เตรียมจะเปิดประมูล 4 โครงการ เงินลงทุน 298,831 ล้านบาท ได้แก่ สายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงิน 128,235 ล้านบาท สายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน วงเงิน 120,459 ล้านบาท สายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ-หัวหมาก และสายสีแดงเข้มช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง วงเงิน 50,137 ล้านบาท นอกจากนี้มีอีก 2 โครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคือ สายสีแดงอ่อนตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลายา วงเงิน 17,671 ล้านบาท และสายสีแดงเข้มรังสิต-ธรรมศาสตร์ วงเงิน 6,570 ล้านบาท รวมถึงเตรียมนำ 3 โครงการที่จะผลักดันต่อไป ได้แก่ สายสีเขียวส่วนต่อขยาย คูคต-ลำลูกกา สายสีเขียวต่อขยายสมุทรปราการ-บางปู และสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางแค-พุทธมณฑลสาย 4
ส่วนสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.4 กม. เงินลงทุน 1.2 แสนล้านบาท การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะเสนอให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาปลายปีนี้ ( 2561) เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยเอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56) ต่อไป
รถไฟฟ้าสายสีม่วง
รถไฟฟ้าสายสีม่วง
ส่วนสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท ยังอยู่ระหว่างการ พิจารณาของบอร์ด รฟม. ก่อนจะเสนอเข้า ครม.ในเดือน กันยายนนี้ สำหรับสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม. วงเงิน 17,262 ล้านบาท จะชะลอออกไปก่อนรอประเมินปริมาณผู้โดยสารหลังเปิดบริการสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ในปี 2563 เนื่องจากแนวเส้นทางอยู่ในพื้นที่ชานเมืองเชื่อมต่อกับจังหวัดนครปฐม ซึ่งอาจทำให้มีผู้โดยสารมาใช้บริการน้อย
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงคูคต-ลำลูกกา ระยะทาง 7กม. วงเงิน 11,989 ล้านบาท และสายสีเขียวส่วนต่อขยายสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 7 กม. วงเงิน 13,344 ล้านบาท ต้องชะลอการขออนุมัติโครงการออกไปก่อน จนกว่าจะมีข้อสรุปการโอนหนี้และทรัพย์สินส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาทกับกรุงเทพฯ
ผู้เชี่ยวชาญด้านราคาที่ดินของบริษัทเอกชน เปิดเผยว่า ราคาประเมินที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าพาดผ่าน ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่งผลให้ราคาที่ดินและราคาคอนโดฯ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวได้รับประโยชน์โดยตรงจากการลงทุนของภาครัฐ โดยราคาประเมินของที่ดินตามแนวรถไฟฟ้า 6 เส้น คือ สายสีเขียวเข้ม สายสีเขียวอ่อน สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง แอร์พอร์ตลิงค์ และสายสีแดงเข้ม ปรับสูงขึ้นเฉลี่ย 31.47%
โดยราคาที่ปรับสูงสุดคือ เส้นทางรถไฟฟ้า ยศเส-สะพานตากสิน-บางหว้า มีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทั้งสาย 48.88% ส่วนถนนราชพฤกษ์ ปรับเพิ่มขึ้น 122% จาก 90,000 บาท/ตร.ว. เป็น 200,000 บาท/ตร.ว. ถนนธนบุรีปรับเพิ่มขึ้น 109% จากราคาประเมินช่วงปี 2555-2558 อยู่ที่ 2.15 แสนบาท/ตร.ว. แต่ในรอบการประเมิน 2559-2562 ปรับขึ้นเป็น 450,000 บาท/ตร.ว. ซึ่งจากราคาที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ผู้บริโภคจึงควรศึกษาและวางแผนการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อความคุ้มค่ามากที่สุด
Cr. ddproperty
