#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย
หากจะมองหาที่ดินแปลงใหญ่ ทำเลใจกลางเมือง เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ รองรับความต้องการของผู้ซื้อที่ต้องการอยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวก และเป็นทำเลที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ประกอบการแล้ว อาจจะเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายนัก เนื่องจากในปัจจุบันทำเลใจกลางเมืองเริ่มหาได้ยากเต็มที อีกทั้งราคาที่ดินใจกลางเมืองยังมีการปรับเพิ่มขึ้นทุกปี ประกอบกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยทั้งในกลุ่มมิลเลนเนียล และผู้สูงอายุเริ่มเปลี่ยนไป ทำให้การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบลีสโฮลด์ (Leasehold) ที่ให้สิทธิการเช่าระยะยาว จึงได้รับความสนใจและดูเหมือนจะเป็นคำตอบที่วิน-วินทั้งผู้ขายและผู้เช่าในปัจจุบัน โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม
คอนโดฯ ลีสโฮลด์ มีเพียง 1% ในกรุงเทพฯ
จากการสำรวจของเน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง พบว่า คอนโดมิเนียมลีสโฮลด์ในปัจจุบันมีจำนวนไม่ถึง 1% ของจำนวนคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ทำเลใจกลางเมือง ทำเลที่มีศักยภาพสูง หรือบริเวณที่ไม่สามารถหาซื้อที่ดินแบบซื้อขาดได้ เนื่องจากเป็นที่ดินของหน่วยงานรัฐ และสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จะมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เป็นที่ดินของเอกชน ทำให้เป็นที่ต้องการสูง
จับตา 3 ทำเลอุปทานสูง ราคาถูกกว่าฟรีโฮลด์ 30-40%
อุปทานของคอนโดมิเนียมลีสโฮลด์ ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน มีจำนวนทั้งหมด 4,500 หน่วย จาก 22 โครงการ พบมากกว่า 67% ตั้งอยู่บริเวณราชดำริ หลังสวน และพระราม 4 ซึ่งทำเลที่ตั้ง ปีที่ก่อสร้าง และคุณภาพโครงการ จะเป็นปัจจัยกำหนดราคา โดยพบว่า คอนโดมิเนียมลีสโฮลด์จะมีราคาขายถูกกว่าคอนโดมิเนียมฟรีโฮลด์ (Freehold) ที่ซื้อแบบขายขาด อย่างน้อย 30-40% และหลายโครงการในกลุ่มซูเปอร์ลักซ์ชัวรี มักใช้เครือโรงแรม 5 ดาวเข้ามาบริหาร หรือมีส่วนควบที่เป็นโรงแรมหรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เกรดเอพ่วงอยู่ด้วย เพื่อเพิ่มมูลค่าและดึงดูดผู้ซื้อชาวต่างชาติให้สนใจเข้ามาซื้อโครงการมากขึ้น