#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย
ผลการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ระบุว่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ระหว่าง 8-10% ต่อปี
และจากสถิติจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตั้งแต่ปี 2557 พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปี 2551 ที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพียง 9.3 ล้านคน ในปัจจุบันนี้มีผู้ใช้มากถึง 5 ล้านคน เป็นการสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen C ที่เติบโตมาพร้อมกับโลกดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร อยากได้ข้อมูลหรือต้องการจะซื้อสินค้าอะไรก็สามารถทำผ่านโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลาประกอบกับปัจจุบันนี้ เครื่องมือสื่อสารมีการพัฒนาที่ดีขึ้นและราคาถูกลง การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทำได้มากขึ้น มีระบบการขนส่งที่รวดเร็ว มี Promotion ที่ดึงดูดใจลูกค้า มีความเชื่อมั่นในแหล่งขายที่มีตัวตน และมีความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีระบบ e-Payment มากขึ้น
อีกทั้งยังมีการนำ Big Data มาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ ถึง 100% เพื่อให้ตรงกับความต้องการ ตลอดจนนำมาใช้วางแผนด้านการตลาดมากถึง 92.85% ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความนิยมซื้อของออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาด e-Commerce ของประเทศไทยเติบโตขึ้นตามไปด้วยทั้งจำนวนผู้ขายและซื้อสินค้าทางออนไลน์
เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคหันมานิยมซื้อสินค้าบนออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้มีผู้ขายนำสินค้าเข้าสู่ระบบการซื้อขายออนไลน์ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน เครื่องสำอาง สกินแคร์ เท่านั้น ในขณะนี้เริ่มมีสินค้าจากกลุ่มธุรกิจสังหาริมทรัพย์ นำเสนอสินค้าเข้าสู่ระบบซื้อขายสินค้าออนไลน์ด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ต้องปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าให้ครอบคลุมและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้นนั้นเอง