5 เทรนด์อสังหาฯ ครึ่งหลังปี 62 กระตุ้นตลาดคึกคัก

5 เทรนด์อสังหาฯ ครึ่งหลังปี 62 กระตุ้นตลาดคึกคัก

#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย

จากสถานการณ์ครึ่งปีแรก 2562 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับหลากหลายที่มาปัจจัยกระทบ โดยเฉพาะการเลือกตั้ง และมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยหรือ LTV รวมทั้งกำลังซื้อจากต่างชาติที่ลดลงบางส่วน ส่งผลให้ภาพรวมเกิดการชะลอตัว ในครึ่งปีหลัง 2562 จึงถือเป็นจังหวะที่ดีที่ผู้ประกอบการจะเริ่มขยับตัว แนวโน้มอุปทานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอความชัดเจนด้านนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่จะออกมากระตุ้นการขับเคลื่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้คึกคักรับครึ่งปีหลัง
โดยมี 5 เทรนด์สำคัญที่เกิดขึ้น ดังนี้
1. สาทร วิทยุ หลังสวน ทำเลซูเปอร์ไพรม์เกิดใหม่ที่น่าจับตา
จากข้อมูลของบริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด พบว่าไตรมาส 2 ของปี 2562 มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ 12,300 หน่วย จาก 30 โครงการ ในจำนวนนี้มีโครงการในระดับลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรีในทำเลซูเปอร์ไพรม์เกิดใหม่อยู่หลายโครงการ โดยเฉพาะทำเลสาทร วิทยุ และหลังสวน ซึ่งส่วนใหญ่พยายามขายทำเลที่หายากและหาจุดขายที่แตกต่าง เพื่อดึงดูดลูกค้าในกลุ่มลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรีให้เข้ามาซื้อ ทั้งนี้ ภาพรวมคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในครึ่งปีแรก 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 23,600 หน่วย ใกล้เคียงกับตัวเลขครึ่งปีแรก 2561
2. คอนโดฯ สามย่าน พญาไท ราชเทวี ปรับราคากว่า 10%
ในช่วงไตรมาส 3 จนถึงสิ้นปี ยังมีโครงการใหม่ ๆ เตรียมเปิดตัวอีกหลายโครงการ ถ้านับเฉพาะผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์มีมากกว่า 14,000 หน่วย ใน 44 โครงการ และหากรวมคอนโดมิเนียมจากผู้ประกอบการรายย่อยที่ประกาศตัวว่า จะเปิดขายในครึ่งปีหลังด้วยแล้ว น่าจะมีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นในตลาดอีกไม่ต่ำกว่า 52 โครงการ มากกว่า 20,000 หน่วย ทำเลที่คอนโดมิเนียมใหม่ที่จะเปิดตัว มากกว่าครึ่งเป็นทำเลใจกลางเมือง โดยเฉพาะทำเลสามย่าน พญาไท ราชเทวี นอกจากนี้ ทำเลสุขุมวิท ทองหล่อ และหลังสวน ก็ยังมีอีกหลายโครงการ และด้วยทำเลที่ค่อนข้างดีมาก เป็นที่ดินแปลงหายาก ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้ราคาขายในคอนโดมิเนียมใหม่เหล่านี้ ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาเฉลี่ยคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วอีกพอสมควร คาดว่าไม่ต่ำกว่า 10%
3. บูม 3 ทำเล ใจกลางเมือง ติดริมแม่น้ำ ใกล้รถไฟฟ้า
คอนโดมิเนียมในทำเลใจกลางเมือง มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน คือ กลุ่มระดับบนที่ต้องการสินค้าระดับพรีเมียมเท่านั้น ข้อดีของตลาดกลุ่มนี้คือ หากสินค้าตรงกับความต้องการ การตัดสินใจก็ไม่มีปัญหาเรื่องราคาเข้ามาเป็นปัจจัย แต่ทั้งนี้กลุ่มนี้ก็มีอยู่จำกัด สำหรับทำเลรองที่ได้รับความสนใจคือทำเลติดริมแม่น้ำ เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ใกล้เปิดดำเนินการแล้ว และสายสีทองที่ก่อสร้างอย่างรวดเร็ว
4. เทรนด์ใหม่อสังหาฯ ผู้สูงวัยหันช้อปคอนโดฯ
แนวคิดใหม่ ๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการที่ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนกลายเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญมากขึ้น หลายโครงการขายวิวแม่น้ำ ห้องเพดานสูง จอดรถเพียงพอ มีพื้นที่ทำงานส่วนกลาง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าถามถึงความต้องการในอนาคต ยังมีคอนโดมิเนียมสำหรับผู้สูงอายุที่เข้าถึงความต้องการของผู้สูงอายุจริง ๆ ที่เป็นตลาดที่น่าสนใจและน่าจับตามองมาก ที่ผ่านมามีผู้พัฒนาโครงการน้อยมากที่หันมาทำสินค้าสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อจริง ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และเข้าใจถึงความต้องการในระยะยาวของตนเองมากที่สุด หรือคอนโดมิเนียมสำหรับคนเลี้ยงสัตว์ ที่ให้ความสำคัญของการใช้ชีวิต และคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงใกล้เคียงกับคุณภาพของเจ้าของห้องเอง
5. รอนโยบายรัฐบาลใหม่ กระตุ้นอสังหาฯ ในวงกว้าง
สำหรับนโยบายรัฐบาลเท่าที่ผ่านมา กรณีการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองสำหรับบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทนั้นเหลือร้อยละ 0.01 แม้จะสามารถช่วยผู้บริโภคได้ในวงกว้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง แต่ยังไม่น่าจะกระตุ้นตลาดได้อย่างชัดเจน เนื่องจากสินค้าระดับราคานี้ ถึงแม้จะมีจำนวนหน่วยมาก แต่ยอดขายรวมยังคงไม่สูงมาก หากต้องการให้เห็นผลชัดเจนขึ้น ควรปรับให้อยู่ในระดับ 5 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย โดยการกระตุ้นควรเป็นมาตรการที่เห็นผลทั้งในวงกว้างและกลุ่มคนที่ทั่วถึงมากขึ้น
นอกจากนี้ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เร็วขึ้นน่าจะช่วยให้การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจเป็นไปได้เร็วกว่านี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็จะได้รับผลดีจากนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะเกิดขึ้นด้วย จะเห็นได้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นับตั้งแต่ต้นปีมาเรียกได้ว่ามีความผันผวนไปตามปัจจัยรอบด้านที่มากระทบ กระทั่งก้าวเข้าสู่ครึ่งปีหลัง ที่มีหลายปัจจัยที่อาจช่วยสนับสนุนให้ตลาดอสังหาฯ กลับมาคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะดีเวลลอปเปอร์ที่เริ่มเปิดโครงการใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้บริโภคจะได้ของที่ตรงใจมากขึ้นด้วย
Cr. ddproperty