#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย
จับตาทำเลเจริญกรุง ราคาพุ่ง ซื้อ-ขายที่ดิน แตะตารางวาละ 2 ล้านบาท เนื่องจากที่ดินเริ่มหาได้ยาก ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับดีมานด์ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ราคาที่ดินในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราก้าวกระโดดช่วง 5 ปีย้อนหลัง และแพงขึ้นไปอีกบนทำเลที่มีการแข่งขันแย่งกันซื้อเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมตามเส้นทางแนวรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน และสายใหม่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
อีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตาเนื่องจากราคาที่ดินพุ่งแซงหน้าคือย่านเจริญกรุง ซึ่งปัจจุบันหาที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการได้ค่อนข้างยาก ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการเข้าไปพัฒนาโครงการใหม่ค่อนข้างน้อยมาก เมื่อเทียบกับทำเลอื่น ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ในขณะที่ดีมานด์ยังคงมีเข้ามาต่อเนื่อง และมีอัตราการปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณปีละ 7-8%
จากการสำรวจของแผนกวิจัยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พบคอนโดมิเนียมในย่านเจริญกรุง ณ ปี 2562 มีทั้งหมด 6 โครงการ ประมาณ 1,573 ยูนิต มูลค่าโครงการ 12,890 ล้านบาท ขายไปแล้วประมาณ 793 ยูนิต หรือคิดเป็น 50% ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด เหลือขายประมาณ 780 ยูนิต หรือคิดเป็น 50%
จากอัตราการขายที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างตํ่าเมื่อเทียบกับทำเลอื่น ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมบางโครงการจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการช่วงต้นปี 2563 จึงส่งผลให้อัตราการขายยังอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างต่ำ
สำหรับราคาที่ดินย่านเจริญกรุงมีการเสนอขายสูงกว่า ตารางวาละ 2,000,000 บาท โดยราคาประเมินที่ดินในช่วงปี 2559-2562 อยู่ที่ 200,000-500,000 บาท/ตารางวา
ผุดมิกซ์ยูส 100 ชั้น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สูงสุดในไทย
จุดขายของย่านเจริญกรุง คือทำเลติดแม่น้ำเจ้าพระยา หรือแม้แต่ทำเลห่างแม่น้ำเจ้าพระยาแต่ได้วิวแม่น้ำ อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่นํ้า อย่างโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ สถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ ที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของย่านเจริญกรุง ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการวางแผนการพัฒนาในเฟสที่ 2 บนพื้นที่รวม 100 ไร่ มูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 3-5 ปี แบ่งเป็น 4 เฟส
1. พื้นที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์เดิม จะต่อเติมหลังคาและปรับช่องลม-แดด เพื่อให้เปิดบริการได้ตลอดทั้งวันจากปัจจุบันที่เปิดให้บริการเฉพาะช่วงเย็นและกลางคืน
2. พื้นที่บริเวณโกดังเก่า 100,000 ตารางเมตร จะปรับพื้นที่เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์สำหรับร้านค้า สวนสนุก (fun park) และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ โดยย้ายชิงช้าสวรรค์เอเชียทีค สกาย มาไว้ในบริเวณนี้ด้วย
3. พื้นที่ลานจอดรถปัจจุบันจะเปิดพื้นที่และผุดมิกซ์ยูส ความสูง 100 ชั้น ภายในประกอบด้วยโรงแรม 5 ดาว 1 แห่ง โรงแรม 6 ดาว 1 แห่ง พื้นที่รีเทลและพื้นที่พาณิชย์ขนาดใหญ่ จุดชมวิวระดับไอคอนิกริมแม่น้ำเจ้าพระยา
4. ฝั่งตรงข้ามถนนของโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการวางแผนเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพื้นที่ รวมถึงจะวางระบบการคมนาคมขนส่งรอบข้างทั้งทางน้ำและทางบกใหม่ทั้งหมด
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ทำเลย่านเจริญกรุงยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติ ตลอดจนโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งล้วนแล้วแต่ผลักดันให้ย่านเจริญกรุงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามองในอนาคตสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น และเป็นอีกทำเลที่น่าลงทุนเป็นอย่างมากสำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในย่านนี้ เนื่องจากซัพพลายที่มีค่อนข้างน้อย และระดับราคาที่ยังไม่สูงมาก
โดยราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมย่านนี้จะอยู่ที่ประมาณตารางเมตรละ 182,000 บาท และผลตอบแทนจากการเช่าที่อยู่ที่ประมาณ 4.5-6.5% ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างน่าสนใจ ที่ส่งผลให้คอนโดมิเนียมในย่านนี้ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดใจให้นักลงทุนเข้ามาในพื้นที่อีกเป็นจำนวนมากในอนาคต
CR.DDproperty
