#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย #อยู่ต่างประเทศอยากมีบ้านในไทย #กู้บ้านในไทยคนไทยในต่างแดน #สินเชื่อซื้อบ้านสำหรับคนไทยในต่างแดน #ทำงานต่างประเทศกู้บ้านในไทย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายกับผู้บริหาร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ว่า หลังจากพบว่า ประชาชนแห่มาจองสิทธิ์ในโครงการบ้านล้านหลังสูงถึง 1.72 แสนล้านบาท รัฐบาลพร้อมส่งเสริมให้คนไทยมีบ้านครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินหน้าโครงการบ้านล้านหลังเฟส 2 ด้วยดึงภาคเอกชนรายใหญ่ รายย่อยเข้ามาช่วยสร้างบ้านไม่เกิน 1 ล้านบาท กระจายไปทั่วประเทศ โดยต้องสร้างบ้านคุณภาพ หรือออกแบบได้อย่างอิสระ หรือใช้วัสดุก่อสร้างแบบใหม่ แต่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ ขณะนี้รัฐบาลมอบหมายให้บีโอไอพิจารณา ส่งเสริมภาคเอกชนสร้างบ้าน โดยให้สิทธิ์ประโยชน์ภาษี และหากรายย่อยมาร่วมสร้างบ้าน จะทำให้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง เฟอร์นิเจอร์เติบโตไปด้วย ต้องดึงเข้ามาร่วมโครงการให้มากขึ้น
ชาวบ้านรายย่อยรายได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน ผู้ดูแลบิดา มารดา ควรได้รับสิทธิ์พิเศษในการพิจารณาให้สินเชื่อ ธอส. จึงต้องเปลี่ยนแนวคิดจากการให้สินเชื่อบ้าน เปลี่ยนมาเป็นการส่งเสริมให้คนไทยมีบ้าน หลังการเลือกตั้ง ต้องการให้ ธอส.เตรียมเงินทุนให้พร้อม เพื่อเดินหน้าบ้านล้านหลังเฟส 2 ต่อไป ผ่านการออกสลาก ธอส. หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ผู้สูงอายุ ประชาชนหันมาฝากเงินกับ ธอส. เพราะให้ดอกเบี้ยสูง มองว่าหลังเลือกตั้งชาวบ้านคงมีอารมณ์หาแหล่งดีมาฝากเงิน นายสมคิด กล่าว
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานที่ประชุมว่า ธอส. ได้ปรับวงเงินสินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้น้อยไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน จากเดิม วงเงิน 20,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 40,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 3 คงที่ 5 ปี ส่วนที่เหลือสำหรับผู้มีรายได้เกิน 25,000 บาทต่อเดือน เหลือวงเงิน 10,000 ล้านบาท และขณะนี้ได้มีผู้ยื่นขอกู้แล้ว 4,100 ราย วงเงินสินเชื่อ 2,560 ล้านบาท อนุมัติสินเชื่อแล้ว 3,580 ราย วงเงิน 2,200 บาท
ธอส. ยังพร้อมพิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไข เพื่อให้กลุ่มคนรายได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน ให้เข้าถึงสินเชื่อบ้าน กลุ่มผู้เลี้ยงดูพ่อแม่ กลุ่มหนุ่มสาว คนเริ่มทำงาน โดย ธอส. พร้อมอุดหนุนภาระในช่วง 6 ปี โดยไม่ต้องขอชดเชยจากรัฐบาล ด้วยวงเงิน 2,400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเตรียมเจรจากับกระทรวงการคลัง เพื่อยืดเวลาการผ่อนชำระจาก 30 ปี เพิ่มเป็น 50 ปี หวังลดภาระการผ่อนชำระต่อเดือน 3,850 บาทต่อเดือน ธอส.กำหนดเป้าหมายระดมทุนผ่านสลาก ธอส.และเงินกู้วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ในช่วงเดือนกันยายนนี้ จำนวน 80,000-100,000 ยูนิต
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าคนไทยในต่างประเทศ พิเศษสุดๆกับโปรโมชั่น ดอกเบี้ยต่ำ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ
เริ่มต้น เพียง 2.80% ต่อปี
cr.sanook