Google เปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหลังจากมี AI เข้ามา

Google "Search Generative Experience"

Google เปิดตัว AI

วันที่ 10 พ.ค. กูเกิลได้จัดงานประชุมนักพัฒนาซอฟท์แวร์ประจำปีหรือ Google I/O ไฮไลท์เด็ดคือการเปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ในบริการค้นหาข้อมูลหลัก ซึ่งจะยกระดับการค้นหาข้อมูลของผู้ใช้ไปอีกขั้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอัลฟาเบต ระบุว่า ระบบเอไอ มีชื่อว่า “Search Generative Experience” มันสามารถตอบคำถามปลายเปิดได้ทันทีในระหว่างการแสดงผลการค้นหา ซึ่งการนำเทคโนโลยีเอไอนี้มาใส่ในระบบค้นหาจะช่วยส่งเสริมศักยภาพให้กับผู้ใช้งานทั้งในระดับบุคคลและธุรกิจต่าง ๆ ทั้งนี้ แม้จะมีการนำระบบการค้นหาขั้นสูงมาใช้ แต่หน้าตาของเว็บไซต์กูเกิลจะยังคงมีหน้าตา ลักษณะ และหน้าที่ ความแตกต่างจะอยู่ที่ “คำตอบ” เท่านั้น โดยหากกูเกิลเวอร์ชันใหม่ตรวจพบว่า คำถามที่เราถามไปนั้นเอไอสามารถให้คำตอบได้ ด้านบนของหน้าผลลัพธ์ก็จะแสดงคำตอบที่สร้างโดยเอไอ ในลักษณะคล้ายกับประโยคบอกเล่าหรือคำแนะนำที่ทำให้เราไม่ต้องไปนั่งไล่ดูเนื้อหาของแต่ละลิงก์ ไม่ได้หมายความว่ากูเกิลจะตัดลิสต์ของลิงก์เว็บไวต์แบบดั้งเดิมไปด้วย เพียงแต่ย้ายไปอยู่ด้านล่างเท่านั้น เพื่อให้ผู้ใช้ยังคงค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้อยู่ หากรู้สึกว่าคำตอบที่เอไอมอบให้ยังไม่เพียงพอ
ผู้ใช้ยังสามารถเข้าสู่ “โหมดการสนทนา” ใหม่ล่าสุด ซึ่งคล้ายกับ ChatGPT คือสามารถตอบคำถามของผู้ใช้ได้แบบเป็นประโยคเป็นเรื่องเป็นราว รวมถึงจะจดจำคำถามก่อนหน้าของผู้ใช้ เพื่อให้การพูดคุยสอบถามมีความต่อเนื่อง บริษัทชี้ให้เห็นว่าโหมดการสนทนาไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นแชตบอตมี “บุคลิกภาพ” เหมือนอย่าง ChatGPT คือจะมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยปรับปรุงผลการค้นหาเท่านั้น จะไม่มีการใส่ความเห็น อคติ หรือความเป็นตัวตนลงไปในคำตอบ ระบบ Search Generative Experience จะเริ่มเปิดทดลองใช้งานที่สหรัฐฯ เพื่อให้กูเกิลได้ติดตามข้อมูลในด้านคุณภาพการใช้งาน ความเร็ว และค่าใช้จ่ายในการแสดงผลค้นหา จากนั้นจึงจะขยายการใช้งานไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในอนาคต

ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดกับกูเกิลหลังมีการนำระบบเอไอมาใช้ มีดังนี้
1.หน้าตาการใช้งานเหมือนเดิม มีแถบให้ผู้ใช้พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหาลงไป
2.ผลลัพธ์ของการค้นหา ข้างบนจะออกมาเป็นคำตอบของเอไอ ส่วนรายการลิงก์เว็บไซต์ต่าง ๆ แบบที่เราคุ้นเคยจะอยู่ข้างล่าง
3.มีโหมดการสนทนาเพิ่มเข้ามา

 

อ้างอิง : pptv