ผู้บริหารบีทีเอสดอดพบ “ประจิน” ขอคำยืนยัน เจรจาเดินรถสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่งสมุทรปราการ พร้อมเร่งเปิดเดินรถช่วงแบริ่งเชื่อมสถานีสำโรงได้ใน 1 ปี หลังหลังสรุปได้งานเดินรถจริง “ประจิน” ยันเจรจาภายใต้หลักการเดินรถต่อเนื่องประชาชนใช้บริการสะดวก เร่ง รฟม.สรุปผลใน ม.ค. 58 ประจิน ย้ำชัด BTS มาวินรับงานเดินรถสีเขียวใต้ 9.1 พันล้าน ล่าสุดผู้บริหารดอดเข้าพบที่กระทรวงคมนาคมหารือแนวทางการรับงาน คาด รฟม.สามารถสรุปรายละเอียดนำส่งได้ภายใน ม.ค.58
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าภายหลังนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เข้าพบ วานนี้ (18 ธ.ค.) ว่า ผู้บริหารบีทีเอสเข้ามาขอความชัดเจนนโยบายของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ช่วง แบริ่ง -สมุทรปราการ ซึ่งได้ยืนยันนโยบายของกระทรวงคมนาคมไปว่า มีแนวคิดในการเจรจากับบีทีเอสให้เป็นผู้เดินรถไฟฟ้าสาย สีเขียวใต้ ซึ่งได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบีทีเอสภายใต้หลักการต้องเดินรถต่อเนื่องให้ประชาชนผู้ใช้บริการสะดวกสบาย ในขณะเดียวกันต้องมีโปร่งใส เป็นประโยชน์
ทั้งนี้ ได้ให้ผู้บริหาร รฟม.เร่งสรุปแนวทางการเดินรถสายสีเขียวใต้เพื่อให้ทันกับการก่อสร้างงานโยธาที่มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยคาดว่า รฟม.จะสามารถสรุปและเสนอรายละเอียดมาที่กระทรวงคมนาคมได้ภายในเดือนมกราคม 2558 พร้อมกันนี้ทาง รฟม.จะต้องเสนอผลสรุปดังกล่าวไปที่อนุกรรมการกลั่นกรองของคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (ซูเปอร์บอร์ด) คู่ขนานไปด้วย เพื่อเสนอซูเปอร์บอร์ดเห็นชอบต่อไป
ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการสายปฏิบัติการบีทีเอส กล่าวว่า พล.อ.อ. ประจิน ระบุว่า หากผลการเจรจาได้ข้อสรุปว่า บีทีเอสเป็นผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้จริงทางกระทรวงคมนาคมต้องการให้เร่งทำงานเพื่อเปิดเดินรถได้เร็วที่สุด ซึ่งบีทีเอสยืนยันว่ามีความพร้อมในการรับงานเดินรถสายสีเขียวใต้มาก โดยจะสามารถเปิดเดินรถต่อจากสถานีแบริ่งของบีทีเอสไปยังสถานีสำโรงของ รฟม. ได้ภายใน 1 ปี และจะสามารถเปิดเดินรถสายสีเขียวใต้ได้ตลอดทั้งเส้นทาง ภายใน 2 ปีครึ่ง ขณะที่ก่อนหน้านี้ รฟม.ได้มาเจรจากับ กทม.และ บีทีเอสแล้ว 2ครั้ง เพื่อนำข้อมูลไปพิจารณา และนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ต่อไป
ส่วนการคิดอัตราค่าจ้างเดินรถนั้น คงต้องอ้างอิงจากราคาที่ กทม.จ้างบีทีเอสเดินรถเป็นหลัก เนื่องจากมีรูปแบบการจ้างงานที่คล้ายคลึงกัน โดยหากบีทีเอสเป็นผู้เดินรถสายสีเขียวใต้ คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงเริ่มต้นจำนวนผู้โดยสารจะยังไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้โดยสารของระบบบีทีเอสเดิม แต่จะเป็นการเดินทางที่ไกลขึ้น
โดยปัจจุบีนจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสในวันธรรมดาเฉลี่ยอยู่ที่ 7 แสนคนต่อวัน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อยู่ที่ 5 แสนคนต่อวัน และประเมินว่า ผู้โดยสารจะเติบโต ประมาณ 3-4%
“บริษัทมั่นใจและมีความพร้อมในการเร่งรัดการเปิดเดินรถได้เร็วที่สุด หากได้รับเป็นผู้เดินรถสายสีเขียวใต้ ซึ่งภาครัฐจะได้ประโยชน์ตรงในเรื่องราคาที่ไม่แพงหากเปรียบเทียบกับประกวดราคาหาผู้เดินรถรายใหม่ ส่วนประชาชนจะได้ประโยชน์ตรงที่การเดินทางเชื่อมต่อสะดวกสบาย การเดินรถจะสามารถทยอยเปิดภายใน 1 ปี หลังได้ข้อสรุปให้ บีทีเอสเดินรถ
โดยจะวิ่งทะลุต่อมาจากเส้นทาง บีทีเอสในปัจจุบัน มีสถานีสำโรงของสายสีเขียวใต้ที่เป็นสถานีต่อเนื่องกับสถานีแบริ่งของบีทีเอส แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการก่อสร้างงานโยธาด้วยว่าจะเสร็จเร็วแค่ไหน”นายสุรพงษ์ กล่าว
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กม. วงเงินลงทุนรวม28,659.3 ล้านบาท โดยมีค่าก่อสร้างงานโยธา 17,233.0 ล้านบาทและ ค่างานระบบรถไฟฟ้า 9,129.0 ล้านบาท