ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 27 โครงการ ในเดือนพฤษภาคม มูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 32,444 ล้านบาท
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่า จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 7,769 หน่วย ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน -539 หน่วย (เดือนเมษายน 2558 มีจำนวน 8,308 หน่วย) หรือลดลงประมาณ -6% เนื่องจากมีการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบมากกว่าในเดือนที่ผ่านมา แต่มีจำนวนหน่วยขายเฉลี่ยต่อโครงการน้อยลง จึงทำให้มีจำนวนหน่วยขายโดยรวมลดลง
มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2558 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 32,444 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน -5,404 ล้านบาท (เดือนเมษายน 2557 มีมูลค่า 37,848 ล้านบาท) หรือลดลงประมาณ -14% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา โดยจะพบว่าสินค้าที่เข้าสู่ตลาดมีทั้งระดับราคาปานกลางค่อนข้างถูก จนถึงราคาแพง โดยมีระดับราคาขายต่ำกว่า 3 ล้านบาท ประมาณ 59% และระดับราคาที่เกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวนหน่วยขายประมาณ 41% ของหน่วยขายที่เปิดใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้
ในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 36% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 30% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการได้สูงสุดอันดับ 1 คือ บ้านแฝดระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 42 หน่วย ขายได้แล้ว 34 หน่วย (81%) รองลงคือ อาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 55 หน่วย ขายได้แล้ว 41 หน่วย (75%) และอันดับ 3 คืออาคารชุดระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 87 หน่วย ขายได้แล้ว 60 หน่วย (69%)
บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีการพัฒนาโครงการมากที่สุด จำนวน 7 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และมีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 3 บริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง
หากพิจารณาภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใหม่เดือนพฤษภาคมของปีนี้กับเดือนพฤษภาคมปี 2557 จะพบว่าในปีนี้มีจำนวนโครงการเปิดใหม่ลดลง -11 โครงการ (ลดลง -29%) และมีจำนวนหน่วยขายลดลง -2,477 หน่วย (-24%) มีมูลค่าลดลง -46 ล้านบาท (-0.1%) แต่มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก 3.171 ล้านบาทเป็น 4.176 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 31%)