“โครงการบ้าน ธอส. – กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 11”

“โครงการบ้าน ธอส. - กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 11”

ธอส.เดินหน้าคืนความสุขให้สังคมไทยตามนโยบายรัฐบาล จัดทำ “โครงการบ้าน ธอส. – กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 11” อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 8 เดือนแรก

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มโอกาสให้กับข้าราชการได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดทำ “โครงการบ้าน ธอส. – กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 11” อัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษ 0% ต่อปี นานถึง 8 เดือนแรก กู้ได้สูงสุด 110% ของราคาประเมิน ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559

นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มโอกาสให้กับข้าราชการได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ธอส.จึงได้ร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดทำ “โครงการบ้าน ธอส.- กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 11” มอบสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษให้ข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 8 เดือนแรก เดือนที่ 9 – 24 คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR–1.50% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR–1.00% ต่อปี

กรณีกู้ชำระหนี้ หรือซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.750% ต่อปี) กู้ได้สูงสุดถึง 110 % ของราคาประเมิน วัตถุประสงค์ให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง

ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย และซื้อทรัพย์มือสอง(NPA) โดยเฉพาะที่ดินเปล่าของ ธอส. ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี สามารถยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 มีนาคม 2559

“ธอส.ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้ให้ความสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำและกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง จึงจัดทำโครงการบ้าน ธอส. – กบข.เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ นับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ธนาคารสามารถสร้างโอกาสให้ข้าราชการไทยที่เป็นสมาชิก กบข. มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 152,457 ราย และปัจจุบันมีจำนวนบัญชีเงินกู้คงค้างที่ใช้สิทธิ์ผ่านโครงการดังกล่าว 105,668 บัญชี วงเงินสินเชื่อรวม 46,467.68 ล้านบาท” นางอังคณากล่าว