ประธานกรรมการ ธอส. ประกาศเดินหน้า 4 เรื่องด่วนสนับสนุนนโยบายรัฐบาล

ประธานกรรมการ ธอส. ประกาศเดินหน้า 4 เรื่องด่วนสนับสนุนนโยบายรัฐบาล

นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้ฝ่ายบริหาร เร่งดำเนินการ 4 มาตรการ คือ การขยายวงเงินในโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่ให้กู้ซื้อบ้านในราคา ไม่เกิน 3 ล้านบาท ให้อีก 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากกรอบวงเงินเดิม 1 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 2 หมื่นล้านบาท เพราะหลังจากที่เปิดให้ยื่นขอคำขอกู้ 19 ต.ค. 2558 ล่าสุดมีผู้ยื่นขอสินเชื่อกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท และได้เร่งอนุมัติสินเชื่อไปแล้วกว่า 5,270 ล้านบาท เฉลี่ยปล่อยกู้ต่อรายที่ 1.45 ล้านบาท คาดว่าจะอนุมัติได้ครบ 1 หมื่นล้านบาทแรก ภายในกลางเดือนธ.ค. 2558 นี้
.
.
ใครยังไม่ยื่นไม่ต้องกังวล เพราะธนาคารได้ขยายวงเงินเป็น 2 หมื่นล้านบาท และหลังจากนี้จะจัดงานมหกรรมที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น สงขลา เชียงใหม่ และชลบุรี เพื้อให้คนต่างจังหวัดเข้าถึงสินเชื่อกันมากๆ” นายสุรชัย กล่าว
.
.
ทั้งนี้ ธอส.ยังเข้าร่วมในโครงการบ้านประชารัฐหรือการสร้างบ้านให้ผู้มีรายได้น้อย โดยจะทำทั้งปล่อยกู้ผู้ประกอบการที่ไปสร้างบ้าน และประชาชนที่ต้องการขอสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยจะต้องประสานกับการเคหะแห่งชาติ และกรมธนารักษ์ในฐานะ ผู้จัดหาพื้นที่ เช่น พื้นที่ที่อยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป้าหมาย สร้างบ้าน 2.7 ล้านยูนิต ในราคา 5-6 แสนบาทต่อยูนิต คาดว่า ปีแรกจะสร้างได้ 6-7 หมื่นยูนิต คิดเป็นวงเงินสินเชื่อที่ต้องสนับสนุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท และกระทรวงการคลังอาจพิจารณาให้ธนาคารออมสินเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย
.
.
นอกจากนี้เร่งสนับสนุนการพัฒนาระบบ ชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (อี-เพย์เมนท์) ซึ่งถือเป็นนโยบายของกระทรวงการคลัง ที่ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งบัตรเดบิตการ์ด เครดิตการ์ด และโครงการเปิดคลินิกให้ความรู้ กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้ทราบถึงวิธีที่จะทำให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น
.
.
สำหรับผลการดำเนินงานล่าสุด ณ วันที่ 31 ต.ค. 2558 มีสินเชื่อปล่อยใหม่ได้กว่า 1.3 แสนล้านบาท คาดว่าทำได้ตามเป้าหมาย 1.49 แสนล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้าเพิ่มสินเชื่อปล่อยใหม่เป็น 1.57 แสนล้านบาท ส่งผลให้ ยอดสินเชื่อคงค้างกว่า 8.4 แสนล้านบาท มีเงินฝากคงค้างกว่า 7 แสนล้านบาท ขณะที่ ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) กว่า 5.51% ด้านกำไร 10 เดือนอยู่ที่ 7,600 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะทำได้ตามเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ 8,800 ล้านบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่แนวโน้ม เอ็นพีแอลที่จะกระทบต่อการตั้งสำรอง ซึ่ง ปัจจุบันธนาคารได้ตั้งสำรองไว้แล้ว 101% ด้านเงิน กองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอส) อยู่ในระดับ 15.46% ถือว่าเป็นระดับที่ธนาคารสามารถปล่อยกู้โดยที่ยังไม่ต้องเพิ่มทุนได้ถึง 5 ปี
.
.
.
.
ที่มา : http://www.ryt9.com/s/nnd/2312392