#คนไทยในต่างประเทศ #สินเชื่อสำหรับคนไทยในต่างประเทศ #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อสำหรับคนไทยในต่างประเทศ #คนไทยในต่างแดน #ซื้อบ้านในไทย #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อคนไทยในต่างแดน #สินเชื่อซื้อบ้านสำหรับคนไทยในต่างแดน #ทำงานต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศ
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยอนุมัติงบประมาณวงเงินรวม 12,750 ล้านบาท ให้กับผู้มีรายได้น้อยนอกภาคการเกษตรราว 5.4 ล้านคน ผ่าน 3 ธนาคาร ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ซึ่งจะดำเนินการโอนเข้าบัญชีภายในระยะเวลาตั้งแต่ 1 ธ.ค.- 30 ธ.ค.2559
โดยเงื่อนไขการได้รับสิทธิ์ ต้องลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีและเป็นผู้ว่างงาน หรือมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี ในปี 2558 ซึ่งมีการตรวจสอบสถานะบุคคลและความถูกต้องของข้อมูลในเบื้องต้นจากกรมสรรพากร และกรมการปกครองแล้ว โดยให้ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกร รายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี จะได้รายละ 3,000 บาท ผู้มีสิทธิ์ประมาณ 3.1 ล้านคน วงเงิน 9,300 ล้านบาท และผู้มีรายได้เกินกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี จะได้รายละ 1,500 บาท ผู้มีสิทธิ์ประมาณ 2.3 ล้านคน วงเงิน 3,450 ล้านบาท รวมจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ 5.4 ล้านคน วงเงินรวม 12,750 ล้านบาท
เบื้องต้นให้ทาง ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน และ ธนาคารกรุงไทย สำรองจ่ายค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีรายได้น้อยดังกล่าวไปก่อน และรัฐบาลจะชดเชยต้นทุนเงินให้กับทั้ง 3 ธนาคารในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ประเภทบุคคลธรรมดาของ 4 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่ FDR บวก 1% โดยปัจจุบันอัตรา FDR เท่ากับ 1.225% ต่อปี