น้อมนำพระราชดำรัสฯ ในหลวง ร.9 รับมือสภาพจิตใจ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ

น้อมนำพระราชดำรัสฯ ในหลวง ร.9 รับมือสภาพจิตใจ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ

#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน
ในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ความรู้สึกโศกเศร้า เสียใจ คิดถึง หรือระลึกถึงพระองค์ย่อมมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติทางจิตใจที่เกิดขึ้นได้ ในผู้ที่มีความรู้สึกสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักหรือสิ่งที่เป็นความผูกพันยึดเหนี่ยวจิตใจได้ขาดหายไป แต่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น และจะหมดไปในช่วง 6-8 สัปดาห์ โดยกรมสุขภาพจิตแนะนำให้คนไทยน้อมนำพระราชดำรัสในการรับมือสภาพจิตใจในระหว่างพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ
การปรับตัวต่อการสูญเสียเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่จะต้องจัดการและก้าวผ่านความทุกข์โศกของตนเองไปให้ได้ และการปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงความรู้สึกโศกเศร้า จะทำให้กระบวนการโศกเศร้านั้นยาวนานยิ่งขึ้นได้ ซึ่งภาวะสุขภาพจิตที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในช่วงวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ได้แก่ ปฏิกิริยาความโศกเศร้ารุนแรงที่แสดงออกในฝูงชน การร้องไห้ คร่ำครวญ กรีดร้อง ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หรือมีภาวะหายใจเร็ว เกิดอาการมือจีบ ตัวเกร็ง เป็นลม ที่มักพบในช่วง 3 เดือนแรกหลังเกิดเหตุการณ์วิกฤตต่าง ๆ เหล่านี้ จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที การเตรียมกายเตรียมใจให้พร้อมในช่วงเวลานี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ดูแลกันและกัน ช่วยเหลือ รับฟัง ปลอบใจ
ทุกคนสามารถช่วยดูแลใจกันและกันได้ โดยหากพบคนรอบข้างที่เข้าร่วมในงานพระราชพิธีฯ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค หรือที่อาจไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมงานด้วยได้ มีอาการร้องไห้ฟูมฟาย แยกตัวอยู่คนเดียว เพ้อ ซึมเศร้า เหม่อลอย หรือเอะอะโวยวาย ให้ใส่ใจ รับฟัง พูดคุยกับเขา ปลอบประโลมเขา สัมผัสให้เขารู้สึกว่ามีคนเข้าใจ มีคนให้กำลังใจ ถ้ายังไม่ดีขึ้น เช่น ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ โศกเศร้ารุนแรง มีความคิดฆ่าตัวตาย ให้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์ พยาบาลเคลื่อนที่ ทีม MCATT จิตอาสาทูบีนัมเบอร์วัน หรือ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 เป็นต้น
พสกนิกรชาวไทยทุกคนล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ และทุกคนต่างรู้สึกโศกเศร้าเสียใจไม่ต่างกัน แต่อยากขอให้ทุกคนมีสติรู้เท่าทัน ทำจิตใจให้เข้มแข็งเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนอื่น ๆ รอบข้าง ซึ่งหากเรามีจิตใจที่เข้มแข็งแล้ว ย่อมมีพลังด้านบวกที่พร้อมจะช่วยเหลือคนอื่น ๆ ให้ก้าวผ่านความโศกเศร้าอันใหญ่หลวงครั้งนี้ไปได้ ดังพระราชดำรัส
“…ความสุขความเจริญนี้ แม้เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาอย่างยิ่ง แต่ในวิถีชีวิตของคนเรานั้น ย่อมต้องมีทั้งสุขและทุกข์ ทั้งความสมหวังและผิดหวังเป็นปรกติธรรมดา ทุกคนจึงต้องเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมกายให้พร้อม อย่าประมาท …จึงขอให้ท่านทั้งหลายได้รักษาและสร้างเสริมสุขภาพของตนให้สมบูรณ์ ให้มีกำลังกายที่แข็งแรง มีกำลังใจที่เข้มแข็งหนักแน่น และมีสติรู้เท่าทันอยู่เสมอ จักได้สามารถนำพาตนให้ผ่านพ้นสถานการณ์ต่าง ๆ อันไม่พึงประสงค์ จนบรรลุถึงความสุขความเจริญ และความสำเร็จได้ ดั่งที่ตั้งใจปรารถนา…”
ความสุขของพระองค์ คือ อยากเห็นคนไทยมีความสุข จึงขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยร่วมกันน้อมนำพระราชดำรัส มาเป็นสิ่งเตือนใจในทุกขณะของการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ เพื่อให้เกิดความหวังและกำลังใจที่ดี ที่จะช่วยก้าวผ่านความโศกเศร้า พร้อมนำพาประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าร่วมกัน สมดังพระราชปณิธานของพระองค์