#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน
สำหรับใครที่มีบ้านเป็นของตัวเองแล้วและกำลังผ่อนชำระค่างวดกันอยู่ ช่วงแรกอาจจะเบาใจได้ในการผ่อนปีแรกๆ เพราะส่วนใหญ่มักจะได้ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านในอัตราพิเศษ หรือโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำนั่นเอง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนหมดโปรโมชั่นดอกเบี้ยถูก แล้วเข้าสู่โหมดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว เช่น MRR ลบกี่เปอร์เซ็นต์ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงินที่กำหนดไว้จากอัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ำๆ 3-4% พอเจออัตราดอกเบี้ยลอยตัว เช่น MRR-1% (สมมติ MRR = 8%) ก็จะเท่ากับต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 7% เรียกว่าเพิ่มขึ้นอีกเกือบๆ เท่าตัวเลยทีเดียว และอาจส่งผลให้เงินงวดที่ผ่อนชำระอาจเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จึงเกิดการขอรีไฟแนนซ์หรือรีเทนชั่นกันขึ้นมา
เราจะอธิบายความหมายของการรีไฟแนนซ์หรือรีเทนชั่นสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบง่ายๆ ว่า
การรีไฟแนนซ์ (Refinance) คือการนำที่อยู่อาศัยที่จดจำนองกับแบงก์หนึ่งไปขอวงเงินกู้กับแบงก์อื่น (ใหม่) แล้วนำวงเงินกู้จากแบงก์ใหม่มาชำระให้กับแบงก์เดิม แล้วเริ่มต้นผ่อนชำระกับแบงก์ใหม่
ส่วนการรีเทนชั่น (Retention) นั้นจะเป็นการขอปรับเปลี่ยนอัตราเงินกู้แบงก์เดิมโดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนแบงก์นั่นเอง ทั้งสองกรณีมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือต้องการอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ถูกลง แต่จะทำแบบนี้ได้ผู้กู้เองก็ต้องมีเครดิตดี และมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีด้วย
สำหรับวันนี้ทางเราขอนำเสนอแนวทางการขอรีไฟแนนซ์อย่างไรให้ผ่านฉลุย เริ่มแรกก็อย่างที่บอกไปข้างต้น ผู้กู้ต้องมีประวัติการชำระเงินอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญต้องตรงต่อเวลา นอกจากนี้ต้องมีการตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยการรีไฟแนนซ์ให้ครบถ้วน เพราะในปัจจุบันธนาคารต่างออกโปรโมชั่นมาดึงดูดลูกค้าที่กู้เงินมาซื้อบ้าน และที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ เพราะการรีไฟแนนซ์บ้านอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายกรณีเปลี่ยนแหล่งเงินกู้หรือเปลี่ยนชื่อผู้กู้สำหรับขั้นตอนการวางแผนทางการเงินในกรณีที่อยากผ่อนชำระในระยะเวลาสั้นๆ นั้น ซึ่งจากเดิมเคยกู้ธนาคารในระยะเวลาการผ่อนชำระ 30 ปี แต่พอคิดจะรีไฟแนนซ์อยากจะผ่อนชำระให้หมดเร็วๆ อาจขอผ่อนชำระเพียง 15 ปี จะทำให้ค่างวดการผ่อนบ้านเพิ่มขึ้น ดังนี้นถ้าไม่วางแผนการเงินเอาไว้ล่วงหน้าอาจส่งผลเสียต่อการจ่ายค่างวดใหม่ และจะเสียประวัติเอาง่ายๆ ด้วย
