ได้สิทธิ์ 1.65 แสนคน ลูกค้าผ่อนดีมีวินัย ธอส. มอบของขวัญปีใหม่ พันบาท

ได้สิทธิ์ 1.65 แสนคน ลูกค้าผ่อนดีมีวินัย ธอส. มอบของขวัญปีใหม่ พันบาท

#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทยคณะรัฐมนตรีอนุมัติ 4 โครงการเพื่อส่งเสริมการมีวินัยทางการเงิน กระตุ้นการใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมกับสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และบุคลากรภาครัฐได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามพันธกิจ ทำให้คนไทยมีบ้าน ภายใต้กรอบวงเงินสินเชื่อรวม 61,000 ล้านบาท นำโดย “โครงการของขวัญปีใหม่ 2561 เพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินสำหรับลูกค้า ธอส. ผู้มีรายได้น้อย” มอบของขวัญปีใหม่จำนวน 1,000 บาท ให้แก่ลูกค้าที่ปฏิบัติตาม 4 เงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด พร้อมจัดทำสินเชื่อบ้านเพื่อสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยครอบคลุมกลุ่มผู้ทีได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มบุคลากรภาครัฐได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเริ่มต้นเพียง 2.75% ต่อปี คงที่นาน 4 ปีแรก สำหรับวงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท ฟรี!! ค่าธรรมเนียม 4 ฟรี ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2561 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 26 ธันวาคม 2560 ได้มีมติอนุมัติ 4 โครงการของ ธอส. ที่จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมการมีวินัยทางการเงิน กระตุ้นการใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมกับสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และบุคลากรภาครัฐได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตามพันธกิจทำให้คนไทยมีบ้าน ภายใต้กรอบวงเงินสินเชื่อรวม 61,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการของขวัญปีใหม่ 2561 เพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินสำหรับลูกค้า ธอส. ผู้มีรายได้น้อย เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ต้องการมุ่งเน้นส่งเสริมการมีวินัยทางการเงินในการผ่อนชำระเงินกู้ของลูกค้า พร้อมส่งมอบความสุขให้กับประชาชน กระตุ้นกำลังซื้อ และให้เกิดการใช้จ่ายหมุ่นเวียนในระบบเศรษฐกิจ ช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยธนาคารจะมอบของขวัญปีใหม่จำนวน 1,000 บาท ให้แก่ลูกค้า(ผู้กู้หลัก) ซึ่งทุกบัญชีต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ประกอบด้วย (1) วงเงินกู้ทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันไม่เกิน 1 ล้านบาท (2) ตั้งแต่วันทำสัญญากู้เงินกับธนาคาร ไม่เป็นหรือไม่เคยเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) (3) มีประวัติการผ่อนชำระหนี้ดีย้อนหลัง 48 เดือน เป็นปกติสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนด และตรงตามกำหนดเวลาชำระทุกเดือน และ (4) ต้องชำระเงินงวดของเดือนธันวาคม 2560 ในระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคม 2560 และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าปี 2561 มีลูกค้าที่มีสิทธิ์ได้รับขวัญปีใหม่เป็นจำนวน 165,107 ราย
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ปฏิบัติได้ตรงตามเงื่อนไขสามารถติดต่อขอรับของขวัญปีใหม่จำนวน 1,000 บาทได้ด้วยตัวเอง ที่สาขาของ ธอส. ทุกแห่งทั่วประเทศ เพียงนำใบเสร็จรับเงินที่ชำระเงินงวดรอบเดือนธันวาคม 2560 ที่มีข้อความในใบเสร็จว่า “ของขวัญปีใหม่ – วินัยการผ่อนชำระ” พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรประจำตัวข้าราชการ/บัตรพนักงานองค์การของรัฐ(ตัวจริง) มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2560 ถึง 31 มกราคม 2561
2.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนประชาชนผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งที่ประกอบอาชีพประจำ และอาชีพอิสระ ให้สามารถกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้าง อัตราดอกเบี้ย แยกตามวงเงินกู้ ดังนี้
2.1 วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท (กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.75% ต่อปี นาน 4 ปีแรก ปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.75% ต่อปี) ค่าธรรมเนียม 4 ฟรี ได้แก่ (1)ฟรีค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) (2)ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกันทุกวงเงินกู้ (3) ฟรีค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และ (4)ฟรีค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง
2.2 วงเงินกู้ต่อรายมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท (กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี นาน 4 ปีแรก ปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี ค่าธรรมเนียม 4 ฟรี ได้แก่ (1)ฟรีค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) (2)ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกันทุกวงเงินกู้ (3)ฟรีค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และ (4)ฟรีค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง 0.5% ของวงเงินจำนอง
3.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ บุคลากรภาครัฐ (กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ย MRR-3.75% ต่อปี หรือปัจจุบันเท่ากับ 3.00% ต่อปี นาน 4 ปีแรก ปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกรณีกู้ชำระหนี้หรือซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR ค่าธรรมเนียม 3 ฟรี ได้แก่ (1)ฟรีค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) (2)ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกันทุกวงเงินกู้ และ (3)ฟรีค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม สำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ราชการ อาทิ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่นและลูกจ้างประจำ ให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น ต่อเติม ซ่อมแซม ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
4.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท)อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.50% ต่อปี นาน 5 ปีแรก ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี ค่าธรรมเนียม 4 ฟรี ได้แก่ (1)ฟรีค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) (2) ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกันทุกวงเงินกู้ (3) ฟรีค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และ (4) ฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง 0.01% ของวงเงินจำนอง(เฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้) สำหรับผู้มีรายได้น้อยไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่นและลูกจ้างประจำ โดยต้องมีภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา นราธิวาส และปัตตานี พร้อมกับมีความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าวเท่านั้น ทั้งนี้ กรณีเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1 ล้านบาท และกรณีผู้มีรายได้น้อยหรือบุคลากรภาครัฐวงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท
ลูกค้าที่สนใจสามารถยื่นกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม – 28 ธันวาคม 2561 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์