ส่อง 3 จังหวัด ต่างชาติแห่ซื้ออสังหาฯ กว่าแสนล้าน

ส่อง 3 จังหวัด ต่างชาติแห่ซื้ออสังหาฯ กว่าแสนล้าน

#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย

นอกจากประเทศไทยจะเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติทางด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นที่สนใจที่จะนำเงินมาลงทุนโดยเฉพาะทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตจากการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทางด้านคมนาคม อย่างรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าความเร็วสูง และราคายังถือว่าถูกกว่าหลาย ๆ ประเทศในแถบเอเชียอย่างสิงคโปร์ และฮ่องกง จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA พบว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมามีชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยถึง 113,280 ล้านบาท
กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ต่างชาติซื้อสูงสุดกว่า 8.3 หมื่นล้าน
ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 576,396 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 113,280 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ถูกซื้อโดยชาวต่างชาติ ได้แก่ ญี่ปุ่น ยุโรป สแกนดิเนเวีย รัสเซีย และจีน
กรุงเทพฯ และปริมณฑล ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่ชาวต่างชาติสนใจซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุด จากมูลค่าการซื้อขายปี 2560 พบว่า ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีถึง 415,852 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งถึง 72% ของมูลค่าการซื้อขายที่อยู่อาศัยทั้งประเทศ โดยมีชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่าถึง 83,170 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หรือคิดเป็น 74% ของมูลค่าการซื้อขายของชาวต่างชาติทั่วประเทศ
สำหรับอันดับที่สองคือ พัทยา มีมูลค่าการซื้อขายโดยชายต่างชาติ 6,524 ล้านบาท หรือประมาณ 30% ของมูลค่าการซื้อขายในเขตพัทยาซึ่งอยู่ที่ 21,746 ล้านบาท ทั้งนี้ แม้จะเป็นอันดับที่สองแต่ขนาดตลาดของพัทยาเล็กกว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 19 เท่า
ส่วนอันดับที่สามคือ ภูเก็ต ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์มากที่สุดเป็นอันดับสอง แต่ปี 2560 มีต่างชาติซื้อรวมทั้งหมด 5,448 ล้านบาท จากที่มีการซื้อขายทั้งหมด 18,161 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดระบบฐานข้อมูลการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยชาวต่างชาติ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนสำคัญ รวมถึงยังไม่มีการบังคับใช้การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสที่จะได้เงินภาษีจากชาวต่างชาติถึง 5,764 ล้านบาท (คิดในอัตรา 1%)
นอกจากนี้ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่ทางภาครัฐเตรียมเปิดช่องให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในช่วงที่ยังไม่มีกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะต้องดำเนินการอย่างรัดกุมเพื่อไม่ให้เสียค่าโง่ในอนาคต