พลิกโฉม “บางซื่อ” ศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน

พลิกโฉม "บางซื่อ" ศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน

#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย

แผนพัฒนาสถานีกลางบางซื่อคืบ รมว.คมนาคม “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ”แจงภายในพื้นที่ 2,325 ไร่ ของศูนย์คมนาคมพหลโยธินและสถานีกลางบางซื่อคือ “ทำเลทองของการพัฒนา” ทั้ง ด้านพาณิชยกรรม การค้าการบริการ สำนักงานและศูนย์การค้า ส่วนที่อยู่อาศัย เตรียมเปิดประมูลพื้นที่โซน A สถานีกลางบางซื่อปลายปี 2561 หลังคณะกรรมการ PPPให้ความเห็นชอบ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวปาฐกถาในในงานสัมมนา BANGKOK’s New Center สถานีกลางบางซื่อ : พลิกโฉมมหานครกรุงเทพ จัดโดย นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ว่า ในอนาคตสถานีกลางบางซื่อจะเป็นศูนย์กลางการเดินทางของประเทศ เชื่อต่อกรุงเทพฯ กับพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก (EEC) และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงการการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ เช่น ลาว จีน และมาเลเซีย

ทั้งนี้ ภายในพื้นที่ 2,325 ไร่ ของศูนย์คมนาคมพหลโยธินและสถานีกลางบางซื่อคือ “ทำเลทองของการพัฒนา” ทั้ง ด้านพาณิชยกรรม การค้าการบริการ สำนักงานและศูนย์การค้า ส่วนที่อยู่อาศัยจะเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก ซึ่งแบ่งการพัฒนาออกเป็น 8 โซน รวมมูลค่าไม่น้อยกว่า 150,000 ล้านบาท (ไม่รวมการพัฒนาระบบรถไฟ) ใช้เวลาในการพัฒนา 15
เตรียมเปิดประมูลพื้นที่โซน A สถานีกลางบางซื่อปลายปี 2561
สำหรับความความคืบหน้าการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อนั้น นายอาคม กล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการร่วมทุนภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP) เห็นชอบโครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในพื้นที่โซน A เนื้อที่ 35 ไร่แล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้คณะกรรมการตามมาตรา 35 จะร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (Term of Reference หรือ TOR ) และคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงปลายปี 2561 ถึงต้นปี 2562 ทั้งนี้การดำเนินการต่างๆในทุกขั้นตอนยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ รวมถึงการเปิดให้บริการในปี 2563 โดยทางองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA : Japan International Cooperation Agency) เข้ามาช่วยดูผลการศึกษาโครงการ
ส่วนสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาพื้นที่เชิงพาณิชย์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ศึกษาตัวรถไฟและระบบราง และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้ามาศึกษาเรื่องสมาร์ทซิตี้ ทั้งนี้ทางญี่ปุ่นมีความเห็นว่าให้คงตลาดนัดจตุจักร ซึ่งจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ รวมถึงสวนสาธารณะ เนื่องจากเป็นเอกลักษณ์ของไทย
“จะพยายามจะเร่งการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้” นายอาคม กล่าวย้ำพร้อมกล่าวอีกว่าได้เร่งรัดการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อเพื่อให้ทันเปิดใช้บริการได้ภายในปี 2563 ที่เบื้องต้นกำหนดให้พื้นที่ โซน A ทางคณะกรรมการ PPP ได้ให้ความเห็นชอบโครงการแล้ว พื้นที่ โซน A เป็นพื้นที่เชื่อมต่อการเดินทางไปยังระบบรถโดยสารสาธารณะ และระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสีแดง รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง คาดต้นปี 2562 จะเริ่มประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างได้ รวมทั้งจะเร่งรัดให้บริษัทประกอบชิ้นส่วนรถไฟสายสีแดงของประเทศญี่ปุ่น ออกแบบตกแต่งขบวนรถให้เร็วขึ้น เพื่อให้ทันเปิดใช้งานสถานีกลางบางซื่อ โดยหลังจากการเปิดให้บริการในปี 2563 แล้ว จะทยอยก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพิ่มเติม และจะสามารถเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบภายในปี 2575
ศูนย์คมนาคมพหลโยธินและสถานีกลางบางซื่อ
ศูนย์คมนาคมพหลโยธินและสถานีกลางบางซื่อ พื้นที่รวม 2,325 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 ระยะ ใช้เวลา 15 ปี ประกอบด้วย
1.ระยะสั้นหรือระยะที่ 1 ดำเนินการภายในปี 2567 ช่วงที่สถานีกลางบางซื่อเปิดให้บริการ โดยในช่วงนี้จะเน้นพัฒนาย่านการค้าและสำนักงานเป็นหลัก
2.ระยะกลางหรือระยะที่ 2 ดำเนินการภายในปี 2572 เน้นการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวกับการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ หรือ MICE ย่านศูนย์การค้าและทางเดินเท้า
3.ระยะยาวหรือระยะที่ 3 ดำเนินการภายในปี 2577 พัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรมและพื้นที่อยู่อาศัยที่เหลือ
กรอบการพัฒนาแบ่งพื้นที่การพัฒนารอบสถานีกลางบางซื่อ แบ่งออกเป็น 8 โซน
1.พื้นที่โซน A พื้นที่รวม 35 ไร่ มีศักยภาพในการพัฒนากิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับระบบขนส่ง
2.พื้นที่โซน B ต่อเนื่องถึงโซน D ในเขตรถไฟฟ้าสายสีแดง มีศักยภาพสูงในเชิงที่ตั้งเนื่องจากอยู่ติดกับสถานีกลางบางซื่อ และเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ จึงมีศักยภาพในการพัฒนาผสมผสานหลากหลายรูปแบบ ตามแผน Transit Oriented Development (TOD) แต่ด้วยข้อจำกัดทางกายภาพและการใช้พื้นที่ ซึ่งวางแผนเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงของรถไฟระยะไกล จึงอาจต้องพิจารณาพัฒนาพื้นที่โซน B และพื้นที่ต่อเนื่องดังกล่าวนี้ในระยะยาว
3.พื้นที่โซน D พื้นที่รวม 83 ไร่ อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีเขียว อยู่ใกล้ย่านพาณิชยกรรมริมถนนพหลโยธินและตลาดนัดจตุจักร สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่อยอดการพัฒนาผสมผสานที่เกี่ยวเนื่องมายังพื้นที่แปลง D ได้ง่าย
4.พื้นที่ต่อเนื่องทางด้านเหนือโซน D มีศักยภาพการพัฒนาปานกลาง เนื่องจากอยู่ถัดออกจากรัศมีการเดิน 500 เมตร จากสถานีกลางบางซื่อ จึงมีศักยภาพในการพัฒนากิจกรรมผสมผสานที่อยู่อาศัย
5.พื้นที่พัฒนาเดิมต่อเนื่องด้านใต้ของโซน D บริเวณตลาดนัดจตุจักรและตลาดอตก. และยังคงเอกลักษณ์และรูปแบบย่านพาณิชยกรรมเดิมไว้
6.พื้นที่โซน C พื้นที่สำหรับการจัดประชุมนานาชาติ การจัดนิทรรศการ ศูนย์กีฬาขนาดใหญ่
7.พื้นที่ย่านตึกแดง พื้นที่รวม 119 ไร่ มีศักยภาพสูงในเชิงที่ตั้ง แบ่งโวนการพัฒนาออกเป็น 2 พื้นที่ย่อย ได้แก่ พื้นที่โซนE พื้นที่ตั้งสำนักงานของหน่วยงานราชการ โดยออกแบบให้มีตึกระฟ้า เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ และพื้นที่โซน F เป็นย่านศูนย์การค้าและแหล่งบันเทิงต่างๆ
8.พื้นที่ย่านกม.11 พื้นที่รวม 360 ไร่ เนื่องจากเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ จึงมีศักยภาพในการพัฒนา TOD ในระดับที่แตกต่างกันนแต่ละบริเวณ กล่าวคือ ด้านตะวันตกและตะวันออก ในระยะเดินเท้า 500 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง สีน้ำเงินและสีเขียวส่วนต่อขยาย มีศักยภาพในการพัฒนาสง เมื่อรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีเขียวส่วนต่อขยายเปิดให้บริการในนาคต
ส่วนพื้นที่ตอนกลาง มีศักยภาพปานกลางในการพัฒนา TOD จำเป็นต้องพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรองก่อนเพื่อสร้างการเชื่อมต่อกับสถานีและกิจกรรมหลักโดยรอบ