เมืองอัจฉริยะ โจทย์ท้าทายของภาคอสังหาฯ ไทยและทั่วโลก

เมืองอัจฉริยะ โจทย์ท้าทายของภาคอสังหาฯ ไทยและทั่วโลก

#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย

รัฐ-เอกชนมุ่งสร้างเมืองอัจฉริยะ ความท้าทายทั่วโลก จากรายงาน ‘Smart Cities Success: Connecting people, proptech and real estate’ ของเจแอลแอล พบว่า ในขณะที่ภาครัฐ มุ่งเน้นการหาเทคโนโลยีเข้ามาใช้สร้างเมืองอัจฉริยะ ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็หันมาสนใจการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างการพัฒนาเมืองอัจฉริยะกับการสร้างสรรค์อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นสถานที่ทำงาน ที่อยู่อาศัย ตลอดจนถึงที่กิน ที่เที่ยวของผู้คนได้ ปัจจุบันเมืองหลายเมืองทั่วโลกมีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things: IoT) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เพื่อเข้ามาจัดการปัญหาที่เกิดจากการเติบโตของเมือง เช่น การจราจร การกำจัดของเสีย และการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งทั้งหมดนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะในเรื่องความเป็นอยู่และการทำงาน รวมไปจนถึงวิธีการใช้ประโยชน์จากอาคารสิ่งปลูกสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวก
ไทยผลักดันสมาร์ทซิตี้ ขยาย 100 เมืองในปี 65
ไทยตั้งเป้าจะมีเมืองอัจฉริยะ 60 เมืองใน 30 จังหวัด ในระหว่างปี 2563-2564 และเพิ่มขึ้นเป็น 100 เมืองทั่วประเทศ ภายในปี 2565 โดยในเบื้องต้นได้มีการนำร่องที่ภูเก็ต ขอนแก่น กรุงเทพฯ และจังหวัดพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งในการพัฒนาเมืองตามหลักของเมืองอัจฉริยะ ต้องประกอบด้วย 7 ด้าน ได้แก่
1. สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) เมืองที่คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการอย่างเป็นระบบ
2. เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) เมืองที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจและบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) เมืองที่มุ่งเน้นพัฒนาระบบจราจรและขนส่งอัจฉริยะเพื่อขับเคลื่อนประเทศ
4. พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) เมืองที่สามารถบริหารจัดการด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. พลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) เมืองที่มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ เปิดกว้างสำหรับการมีส่วนร่วม
6. การดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) เมืองที่มีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกโดยคำนึงถึงหลักอารยะสถาปัตย์ (Universal Design) ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
7. การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) เมืองที่พัฒนาระบบบริการภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการของภาครัฐ มุ่งเน้นความโปร่งใสและการมีส่วนร่วม
จากการวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ประเทศต่าง ๆ ประสบความล่าช้าในการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ พบว่า ระบบราชการเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญ ทั้งนี้ จากการที่เมืองหลายเมืองเป็นเมืองขนาดใหญ่และมีความซับซ้อน การจะดำเนินนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้ประสบความสำเร็จได้ ภาครัฐจะต้องเปิดรับการทดลองสิ่งใหม่ ๆ ยินดีลงทุนในเรื่องของเวลาและทรัพยากร พร้อมเรียนรู้จากการลองผิดลองถูก นอกจากนี้ ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ควรเริ่มด้วยการลดการมุ่งเน้นเฉพาะการแสวงหาเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ควรให้ความสำคัญมากขึ้นกับการคำนึงถึงวิธีที่จะใช้เทคโนโลยีนั้นช่วยให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้นได้อย่างไร โดยเชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์จะสามารถทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างผู้คนกับสาธารณูปโภคเทคโนโลยีดิจิตอลต่าง ๆ ที่กำลังมีบทบาทมากขึ้นในการสรรค์สร้างสภาพแวดล้อมของสังคมเมือง
Prop Tech ไม้เด็ดช่วยเพิ่มมูลค่าอสังหาฯ และการลงทุน
โดยทั่วไปแล้วอสังหาริมทรัพย์มักถูกมองว่าเป็นภาคธุรกิจที่มีความเคลื่อนไหวในด้านเทคโนโลยีช้ากว่าธุรกิจอื่น ๆ แต่ในขณะนี้กำลังมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือที่เรียกว่าพร็อพเทค (Prop Tech) เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่ง Prop Tech เหล่านี้มีส่วนเสริมในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เนื่องจากสามารถช่วยให้การใช้ชีวิตของผู้คนมีความสะดวกสบายมากขึ้น ลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม รวมไปจนถึงการช่วยเพิ่มความโปร่งใส และความสามารถในการตัดสินใจใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง Prop Tech จะเข้ามามีบทบาทในหลากหลายแง่มุม เช่น การเข้ามามีบทบาทนับตั้งแต่ขั้นตอนของการเริ่มก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ไปจนถึงการบริหารจัดการหลังสร้างเสร็จ การช่วยเจ้าของหรือนักลงทุนสามารถลดต้นทุน เพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ และได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยให้ผู้เช่าใช้พื้นที่อสังหาริมทรัพย์สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แม้ว่าประเทศไทยจะยังไม่มี Smart City ที่สมบูรณ์เป็นรูปเป็นร่าง แต่ก็กำลังขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่เป้าหมายที่คัดเลือกเป็นเมืองอัจฉริยะต้นเเบบ นับเป็นแผนการพัฒนาประเทศระยะยาว จึงจำเป็นที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวตามเทรนด์ ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการโครงการ เพื่อสร้างมูลค่าและผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
Cr. DDproperty