#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย
เข้าไตรมาสที่ 4 โค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี 62 ตลาดอสังหาฯ เริ่มคึกคัก ซัพพลายใหม่เพิ่ม 17,000 ยูนิต ผู้ประกอบการแข่งเดือด หั่นราคา 10% ปาดหน้าคู่แข่ง จับตาสายสีน้ำเงิน จ่อเปิดโครงการเพิ่มอีก 6,000 ยูนิต
ปัจจัยบวกในครึ่งปีหลังที่เห็นได้ชัดคือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25 % ซึ่งจะช่วยให้กำลังซื้อลูกค้าบางกลุ่มปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่ ทำให้ช่วงไตรมาสที่ 4 เป็นช่วงขายของที่ผู้ประกอบการจะสามารถกวาดยอดขายได้ดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่าน ๆ มา
ไตรมาสที่ 4 เปิดตัวคอนโดฯ อีก 17,000 ยูนิต
จากข้อมูลของฝ่ายวิจัยคอลลิเออร์ส พบว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2562 เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการต้องปรับแผนแข่งขันในตลาด เพราะเป็นจังหวะที่มีซัพพลายเหลือในตลาดจำนวนมาก แต่ยังมีหลายโครงการที่ทยอยเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 4 อีกประมาณ 17,000 ยูนิต อีกทั้งยังมีสต็อกคงค้างในตลาดจำนวนมาก คาดว่า
ทั้งปีจะมีซัพพลายคอนโดมิเนียม เปิดตัวประมาณ 47,000 ยูนิต
จุดพลุคอนโดฯ ปัง หลังสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเปิดใช้
ทำเลที่มีการแข่งขันกันสูง คือตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง จำนวน 11 สถานี ได้แก่ วัดมังกร สามยอด สนามไชย อิสรภาพ ท่าพระ บางไผ่ บางหว้า เพชรเกษม 48 ภาษีเจริญ บางแค และหลักสอง ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการครบทุกสถานี ก็ดันให้ทำเลนี้กลายเป็นทำเลดาวรุ่งขึ้นมาทันที
ดังจะเห็นได้จากมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในทำเลจรัญสนิทวงศ์ เพชรเกษม ที่มีโครงการเหลือขายเปิดตัวไปแล้ว 8,000 ยูนิต จากที่มีการเปิดตัว 20,000 ยูนิต และกำลังจะมีโครงการเปิดตัวเพิ่มอีก 6,000 ยูนิต
เพชรเกษมบูม เปิดตัวคอนโดฯ หนาแน่นสุดในฝั่งธนฯ
หากโฟกัสทำเลเพชรเกษม ราคาคอนโดมิเนียมที่เปิดขายยังมีไม่แพงเกินไปนัก โดยสถานีที่มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายหนาแน่น 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับที่ 1 สถานีบางหว้า จำนวน 3,719 ยูนิต
อันดับที่ 2 สถานีภาษีเจริญ จำนวน 2,498 ยูนิต
อันดับที่ 3 สถานีท่าพระ จำนวน 2,453 ยูนิต
อันดับที่ 4 สถานีเพชรเกษม 48 จำนวน 2,294 ยูนิต
อันดับที่ 5 สถานีบางไผ่ จำนวน 1,936 ยูนิต
ตลอดระยะเวลาการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2554-กันยายน 2562 เห็นได้ชัดเจนว่าบนถนนเพชรเกษมตามแนวรถไฟฟ้ามีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันมีจำนวนคอนโดที่เปิดขาย 20,000 ยูนิต ในจำนวนนี้กว่า 90% เป็นคอนโดที่อยู่บนถนนเพชรเกษม
ทำเลคอนโดฯ ราคาเอื้อมถึง เฉลี่ยต่อ ตร.ม. ไม่ถึงแสน
จากผลสำรวจ 5 ปีย้อนหลังของคอนโดมิเนียมรอบสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-หลักสอง ทั้ง 11 สถานี ในระยะรัศมี 800 เมตร พบว่า ขนาดห้องที่ได้รับความนิยม คือ 30-35 ตารางเมตร ราคาขายคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยอยู่ในช่วงราคา 70,000-120,000 บาทต่อตารางเมตร ดังนี้
ปี 2557 ราคาเฉลี่ย 66,000 บาทต่อตารางเมตร
ปี 2558 ราคาเฉลี่ย 82,000 บาทต่อตารางเมตร
ปี 2559 ราคาเฉลี่ย 85,850 บาทต่อตารางเมตร
ปี 2560 ราคาเฉลี่ย 86,521 บาทต่อตารางเมตร
ปี 2561 ราคาเฉลี่ย 71,600 บาทต่อตารางเมตร
ปี 2562 ราคาเฉลี่ย 84,478 บาทต่อตารางเมตร
ผู้ประกอบการแข่งเดือด ขายตัดราคา ถูกกว่า 10%
จากซัพพลายทั้งเก่าและใหม่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เริ่มเห็นการตัดราคาขายคอนโดมิเนียมอย่างต่ำ 10% ในโครงการเก่าที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ในหลาย ๆ ทำเล เพราะถ้ามองภาพรวมตลาดในขณะนี้ หากขายแพงจะไม่สามารถขายได้ โครงการใหม่จึงต้องปรับแบบโครงการ เพิ่มจำนวนยูนิต เพื่อลดราคาให้ขายได้จึงจะอยู่รอดได้ในภาวะเช่นนี้
ผู้ประกอบการเล่นสงครามราคา กระตุ้นกำลังซื้อ
ในช่วงไตรมาสที่ 4 จึงถือเป็นช่วงที่จะได้เห็นโครงการใหม่เปิดตัวในราคาต่ำกว่าตลาด ยอมกดราคาย้อนกลับไปในระดับเดียวกับในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยอมลดกำไร ซึ่งบางโครงการทำได้ เพราะราคาที่ดินยังต่ำ จึงยอมปรับรูปแบบโครงการ เพิ่มจำนวนห้อง เพื่อให้ราคาถูกลง เพราะคนยังอ่อนไหวกับราคา สถานการณ์สงครามราคาจึงเป็นผลดีต่อผู้บริโภคที่ได้ซื้อสินค้าที่ถูกลง แต่ผู้ประกอบการที่เปิดตัวก่อนหน้าและปรับแบบไม่ทัน อาจจะมีปัญหาเรื่องสินค้าคงค้างในตลาด
ถือเป็นจังหวะดีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาคึกคัก ผู้ประกอบการงัดกลยุทธ์ออกมาแข่งขันกันสุดฤทธิ์ นอกจากจุดขายเรื่องทำเลใกล้รถไฟฟ้า ดูเหมือนว่าการหั่นราคาจะกระตุ้นกำลังซื้อได้ผล ดันยอดขายปลายปีตามเป้า หรืออาจะทะลุเป้า เพราะแว่วมาว่าอาจจะมีมาตรการรัฐออกมากระตุ้นอีกระลอก ซึ่งคงต้องลุ้นกันต่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2562 จะมาแรงในโค้งสุดท้ายของปีหรือไม่
Cr.DDproperty