#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย
ถนนรามอินทรานั้นถือว่าเป็นถนนเส้นสำคัญในกรุงเทพ เป็นย่านที่พักอาศัยแนวราบ โดยพื้นที่นี้ในอดีตส่วนใหญ่จะเป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์ ร้านค้า ศูนย์บริการรถยนต์ ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า แหล่งที่อยู่อาศัย และโครงการหมู่บ้านจัดสรรอยู่ประปราย แต่ด้วยการมาถึงด้านคมนาคมที่รองรับการขยายตัวของเมือง ทำให้ปัจจุบันทำเลนี้กลายเป็นจุดศูนย์รวมธุรกิจการค้าในด้านต่าง ๆ และธุรกิจอื่น ๆ ที่เป็นการกระจายตัวของธุรกิจขนาดกลางไปถึงเล็กเข้ามาสู่พื้นที่ รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ที่พากันผุดโครงการใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา พร้อมด้วยความโดดเด่นในเรื่องการคมนาคม เชื่อมโยงถนนสายหลักและสายรองที่สำคัญ ๆ มากมายเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้แนวโน้มความเจริญของย่านนี้พุ่งสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นถนนช่วงต้นตัดกับถนนพหลโยธินใช้เดินทางเข้าไปในเมือง ต่อเนื่องไปถึงถนนวิภาวดีรังสิต และถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงปลายติดกับถนนสุวินทวงศ์ ช่วงกลางเชื่อมเป็นระยะกับถนนหลัก อาทิ ถนนนวมินทร์ ถนนเสรีไทย ถนนรามคำแหง ส่วนด้านเหนือเชื่อมกับถนนวัชรพล รวมไปถึงเชื่อมต่อทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์เพื่อมุ่งตรงสู่ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งงานสำคัญทั้งเอกมัย ทองหล่อ และถนนสุขุมวิท พร้อมด้วยถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออกตั้งแต่บางปะอินถึงบางนา-ตราด และยังสามารถตัดเข้าถนนมอเตอร์เวย์เพื่อไปสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ย่านรามอินทราจะทวีความคึกคัก และการคมนาคมที่สะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) ที่ตัดผ่านย่านรามอินทราอีกด้วย
การมาถึงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) จะทำให้เข้าถึงพื้นที่รามอินทรา และพื้นที่อื่น ๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้จะมีสถานีรับส่งผู้โดยสารทั้งหมด 30 สถานี และย่านรามอินทราจะมีสถานีประกอบไปด้วย สถานีรามอินทรา กม.3 สถานีลาดปลาเค้า สถานีรามอินทรา กม.4 สถานีมัยลาภ สถานีวัชรพล สถานีรามอินทรา กม.6 สถานีคู้บอน สถานีสินแพทย์ สถานีวงแหวนตะวันออก สถานีนพรัตน์ สถานีบางชัน และสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ อีกความพิเศษของสายสีชมพูนี้คือการจะเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ใช้เดินทางไปย่านหมอชิต สะพานใหม่ หรือคูคตได้ ทั้งนี้โครงการมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2564
ด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดดของทำเลรามอินทรา ทำให้มีความสมบูรณ์พร้อมในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเส้นทางคมนาคม การเข้าถึงรถไฟฟ้า ความครบครันของสาธารณูปโภค ประกอบกับความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยให้ราคาที่ดินสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาประเมินที่ดินใหม่ (รอบบัญชี พ.ศ.2559 – 2562) ของกรมธนารักษ์ ถนนรามอินทรา เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ราคาประเมินที่ดินอยู่ที่ 95,000 – 100,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งถ้าย้อนไปในปี 2551 – 2554 และระหว่างปี 2555 – 2558 ราคาประเมินอยู่ที่ 90,000 – 95,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งโตขึ้นเฉลี่ย 5.5% และหากรถไฟฟ้าสีชมพูพร้อมเปิดให้บริการ ตลาดของที่ดินย่านนี้ยังมีแนวโน้มที่ราคาจะสูงขึ้นอีกเนื่องจากปัจจัยการคมนาคมที่ดีขึ้น ซึ่งหากใครกำลังมองหาทำเลดีมีอนาคตอยู่ รามอินทรา จัดเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับการลงทุนระยะยาวอย่างแน่นอน
Cr. .inside2home