#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย
ผลการทดสอบทางคลินิกขั้นต้นที่เผยแพร่ในวารสารทางการแพทย์ “แลนเซ็ต” (Lancet) เมื่อวันจันทร์ (20 ก.ค.) บ่งชี้ว่า วัคซีนโควิด-19 ตัวทดลองที่พัฒนาร่วมกันโดยบริษัทแอสตราซาเนกา (AstraZeneca) และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในสหราชอาณาจักร มีความปลอดภัยและสร้างการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในการทดลองในอาสาสมัครที่มีสุขภาพแข็งแรง
วัคซีนที่เรียกว่า AZD1222 ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนานี้ ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบข้างเคียงร้ายแรงใด ๆ รวมทั้งเพิ่มระดับแอนติบอดีต่อต้านและทำลายไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโควิด-19 และภูมิคุ้มกัน T-cells ที่โจมตีไวรัส โดยคนที่ได้รับยา 2 โดส มีระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองดีที่สุด
“ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ก่อนที่เราจะสามารถยืนยันได้ว่าวัคซีนนี้จะช่วยจัดการโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ได้ แต่ผลเบื้องต้นคือสัญญาณที่ดี” นางซาราห์ กิลเบิร์ต ผู้พัฒนาวัคซีนกล่าว “เรายังไม่รู้ว่าจำเป็นต้องใช้การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันมากเพียงใดถึงจะกระตุ้นการป้องกันเชื้อ SARS-CoV-2 อย่างมีประสิทธิผล”
นางกิลเบิร์ต เผยว่า คณะวิจัยจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับโควิด-19 มากกว่านี้ และเดินหน้าการทดลองในขั้นสุดท้ายซึ่งได้เริ่มกันไปแล้ว
การเปิดเผยผลการทดลองมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากแอสตราซาเนกา ลงนามกับรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลกในการจัดหาวัคซีน หากพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิผล และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล
แอสตราซาเนกา ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า จะไม่แสวงหาผลกำไรจากวัคซีนระหว่างมีการระบาดใหญ่ของโควิด-19
คณะนักวิจัยเผยว่า วัคซีนสร้างผลข้างเคียงเล็กน้อย ถี่กว่าการทดลองแบบกลุ่มควบคุม แต่ผลกระทบบางอย่างสามารถบรรเทาลงได้โดยการใช้ยาพาราเซตามอล และไม่พบกรณีเกิดกระทบร้ายแรงใด ๆ จากการใช้วัคซีน
การทดลองครั้งล่าสุดนี้ใช้อาสาสมัครเป็นผู้ใหญ่อายุ 18-55 ปี ที่มีสุขภาพแข็งแรง 1,077 คน และไม่มีประวัติติดโควิด-19
“ข้อมูลในวันนี้ เพิ่มความมั่นใจให้เราว่า วัคซีนจะได้ผล และเปิดทางให้เราเดินหน้าแผนผลิตวัคซีนในขอบเขตที่สามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวางและเท่าเทียมกันทั่วโลก” นายเมเน แพนกาลอส รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาชีวเภสัชภัณฑ์ของแอสตราซาเนกา กล่าว
Cr. กรุงเทพธุรกิจ
