ไทยพร้อมฉีดวัคซีนโควิดให้ปชช.ฟรี

ไทยพร้อมฉีดวัคซีนโควิดให้ปชช.ฟรี

#สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ #อยู่ต่างประเทศซื้อบ้านในไทย #สินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างแดน #อยู่ต่างประเทศอยากซื้อบ้านในไทย

กระทรวงสาธารณสุข เผย คนไทยจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากภาครัฐฟรี ล็อตแรก 26 ล้านโดส กลางปี 2564 โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณากลุ่มเป้าหมายในการรับวัคซีนอันดับต้นๆ ก่อน ยืนยันไม่มีการทุจริต แซงคิวในการรับวัคซีน

วันนี้ (3 ธ.ค.63) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า สำหรับความคืบหน้าวัคซีน ไทยได้มีการจัดหาวัคซีนโควิด โดยจะถึงมือคนไทย 6 เดือนแรกของปีหน้า ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการให้กลุ่มบุคคลที่จะเข้าถึงวัคซีนในอันดับแรกก่อน

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนโควิด-19 มีการประชุมกันตลอด ในการเตรียมการจัดหาวัคซีนให้คนไทยได้ใช้ทันกับประเทศอื่นๆ เบื้องต้น ตั้งเป้า จัดหาให้ได้ร้อยละ 50 ของประชากรในประเทศ โดยที่เหลือร้อยละ 20 มาจากาการเซ็นสัญญา กับ บ.แอสตราเซเนก้า บริษัทผลิตวัคซีนสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน จำนวน 26 ล้านโดส ซึ่งเป็นการซื้อแบบมีเงื่อนไข ในการที่ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับไทย

และความร่วมมือที่ 2 คือ ไทยได้ลงนามเข้าร่วมกับโครงการจัดหาวัคซีนระดับโลก หรือ โคแวกซ์ ซึ่งโคแวกซ์ เป็นการรวมผู้ผลิตวัคซีนจากทั่วโลกเข้ามาอยู่ด้วยกันในระบบ โดยมีการเชิญชวนประเทศต่างๆเข้ามาร่วมทำสัญญาในการจัดซื้อซึ่งไทยได้เข้าร่วม แต่ยังไม่ได้มีการทำสัญญา แค่อยู่ระหว่างการเจรจาเท่านั้น ซึ่งไทยจะได้สิทธิ์สั่งจองวัคซีนประมาณ ร้อยละ 20 ของกลุ่มประชากร

ส่วนอีก ร้อยละ10 คือ ไทยได้ติดตามบริษัทที่ผลิตวัคซีนรายอื่นๆ เพื่อติดต่อเจรจาในอนาคต คาดการว่าการจัดหาวัคซีนต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก รวมถึงการสนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนในประเทศไทย

การจัดหาวัคซีน และการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ในส่วนภาครัฐ ไม่มีการคิดมูลค่า แต่ของภาคเอกชนอาจมีจำนวนหนึ่งที่ไปจัดหามาขายในท้องตลาด ในส่วนนี้อาจมีค่าใช้จ่าย แต่วัคซีนต้องมาขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้ถูกต้อง และต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ก่อน

นพ.โอภาส ระบุว่า ได้มีการเตรียมการสำหรับวัคซีน ไว้ 6 ด้าน คือ การเตรียมหาวัคซีน การพัฒนาเบิกจ่ายวัคซีน มีการขึ้นทะเบียน รับรองจาก อย. การเตรียมสถานพยายาลในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย เช่น รพ.สต การฝึกอบรมกับเจ้าหน้าที่ การสื่อสารกับประชาชนในการได้รับวัคซีน การรณรงค์การฉีดวัคซีน โดยองค์การเภสัชกรรม จะเป็นผู้จัดส่งวัคซีนไปยังสถานพยาบาลต่างๆ การติดตามผลการให้วัคซีน การติดตามอาการหลังได้รับวัคซีน.

Cr. Tnnnews